ความฝันอันสูงสุดของมนุษย์เงินเดือน

โดยณัฐพงษ์ อภินันท์กูล CFP&®
สมาคมนักวางแผนการเงินไทย

“มนุษย์เงินเดือนมีเป้าหมายระยะสั้น-ทนให้ถึงวันศุกร์ เป้าหมายระยะกลาง-รอดให้ถึงสิ้นเดือน และเป้าหมายระยะยาวหรือความฝันอันสูงสุด-ลุ้นให้ถึงวันจ่ายโบนัสประจำปี” เป็นนิยามเป้าหมายของมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ต่างไปจากหนูถีบจักร ที่ไม่รู้ตัวเองว่าจะต้องถีบไปถึงเมื่อไร หรือไม่รู้แม้กระทั่งว่าจะถีบไปทำไม

คำว่า “มนุษย์เงินเดือน หรือ Salary man” อาจเทียบเคียงได้กับ พนังงานประจำ หรือมีหน้าที่หลักในการหาเงินเพื่อมาใช้จ่ายในการดำรงชีวิต มีกิจวัตรประจำวันซ้ำๆ ในทุกวันทำงาน และให้รางวัลแก่ชีวิตตนเองด้วยความบันเทิงชั่วคราวในช่วงวันหยุด พอสัปดาห์ใหม่ของการทำงานเริ่มต้นอีกครั้ง กิจวัตรประจำวันแบบเดิมก็จะวนซ้ำมาซ้ำไป ทว่าหากเราลองสังเกตคนรอบข้าง หรือให้เวลาในการสำรวจตัวเอง เราจะมองเห็นว่า ความชอบ ความฝัน หรือเป้าหมายที่มีความแตกต่างกันออกไป

อิสรภาพทางการเงินเป็นหนึ่งความฝันอันสูงสุดที่ใครหลายคนใฝ่ฝันถึง การมีสินทรัพย์ที่สร้างรายได้พอใช้อย่างเหลือเฟือไปตลอดชีวิต การทำงานที่ตนเองรัก การได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาในครอบครัว การเดินทางท่องเที่ยวไปตามที่ใจฝัน หรือการไม่ต้องตกเป็นทาสของเงิน นิยามของอิสรภาพทางการเงินนั้นขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่าคุณมีความฝันอยู่ที่จุดไหน เช่นเดียวกัน แผนที่การเดินทางไปสู่อิสรภาพทางการเงินของแต่ละคนย่อมมีแผนที่ไม่เหมือนกัน

หากมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว การสร้างแผนเบื้องต้นในการเดินทางไปสู่อิสรภาพทางการเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือนนั้นไม่ยากอย่างที่คิด แค่เริ่มต้นด้วยการ

1) ออมก่อนใช้ จ่ายให้ตัวเองก่อนจ่ายให้ใครๆ และหากรายได้น้อยกว่ารายจ่าย ต้องแยกแยะว่าสิ่งที่ใช้จ่ายนั้นเป็นสิ่งจำเป็น หรือเป็นความต้องการ และเอาชนะใจตนเองให้มีความสุขกับความพอเพียง

2) ทำงบประมาณจดบันทึก มองไปข้างหน้าว่ามีความจำเป็นอะไรบ้างที่ต้องเกิดขึ้น กำหนดเป้าหมาย และจัดสรรเงินให้เหมาะสม มีเงินสำรองอย่างน้อย 3-6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน เป็นการตุนอิสรภาพทางการเงินไว้ 3-6 เดือน

3) รู้เรื่องการลงทุน ให้เงินไปทำงานให้คุณ ตัวอย่างเช่นการลงทุนต่อเนื่องทุกเดือน เดือนละ 5,000 บาท ให้ได้ผลตอบแทน 8% ต่อปี (ประมาณค่าเฉลี่ยของการลงทุนในหุ้นที่ 8-12%) เงินลงทุนจะเพิ่มเป็น 914,000 ใน 10 ปี และเป็น 2,945,000 ใน 20 ปี และมีมูลค่ากว่า 7,500,000 ล้านบาทใน 30 ปี แต่หากออมอย่างต่อเนื่องด้วยเงินจำนวนเดียวกันและได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3% ต่อปีจะมีมูลค่า 2,900,000 ล้านบาทใน 30 ปี

การเข้าใจเรื่องการลงทุนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแผนการเดินทางไปสู่ความฝันหรืออิสรภาพทางการเงิน พลังของดอกเบี้ยทบต้นนั้นมีส่วนประกอบที่สำคัญอยู่ 2 ส่วน คือ ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นต่อปี และจำนวนปีที่ดอกเบี้ยนั้นเกิดขึ้น สำหรับผู้แสวงหาความมั่งคั่งแล้วส่วนประกอบทั้งสองนี้ยิ่งมากยิ่งดี

การกระจายความเสี่ยงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มนุษย์เงินเดือนและนักลงทุนทั่วไปควรให้ความสำคัญ ดังนั้นการจัดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความสำคัญของเป้าหมาย ระยะเวลา และประสบการณ์ในการลงทุนนั้นเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการวางแผนการลงทุน

การถีบจักรในทุกๆ วันก็จะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อหรือน่าท้อแท้อีกต่อไป เพราะเมื่อมองเห็นเป้าหมายและเส้นทางข้างหน้าแล้ว เพียงแค่ 1 ออม 2 จด และ 3 ไม่ละเลยเรื่องลงทุน เริ่มออกเดินทางไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ด้วยการลงมือทำ 1 2 3 อิสรภาพทางการเงินก็ไม่ไกลเกินฝัน

สามารถศึกษาข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th/yourfirststock