xs
xsm
sm
md
lg

“เจ้าสอง” ถึงเวลาเบอร์ 1 ฝันสร้างชื่อ “ขนไก่” อลป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สอง ทนงศักดิ์ คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์
ASTVผู้จัดการรายวัน - แม้การแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาคอาเซียนอย่าง “ซีเกมส์” ครั้งที่ 27 ที่พม่า จะยังไม่สิ้นสุด แต่ชื่อของนักกีฬาดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง “เจ้าสอง” ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข ขนไก่มือ 2 ทีมชาติไทยได้ถูกจารึกว่าเป็นแชมป์เหรียญทองแบดมินตันชายเดี่ยวของประเทศไทยคนแรกในรอบ 38 ปี ต่อจาก บัณฑิต ใจเย็น ผู้คว้าแชมป์มาตั้งแต่ปี 2518

ทั้งนี้ “เจ้าสอง” เปิดเผยถึงความสำเร็จจากกีฬาแห่งอาเซียนครั้งนี้ว่า เกิดจากการแรงฮึดในความผิดหวังครั้งก่อน เมื่อครั้งปี 2011 ที่คว้าเพียงแค่เหรียญเงินซีเกมส์เท่านั้น “ที่ผ่านมาผมเหมือนว่าจะแพ้ทางนักแบดมินตันอินโดนีเซียมาโดยตลอด กับซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ก็แพ้ ไซมอน ซานโตโซ นักกีฬาเจ้าภาพเช่นกัน ส่วนซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ลาว ก็แพ้นักกีฬาอินโดนีเซีย ได้แค่เหรียญทองแดงอีก นั่นนับเป็นแรงผลักดันให้ผมสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมผิดพลาดเหมือนเคยอีก”

“ผมจำได้ดีว่าการแข่งขันครั้งนี้รู้สึกกดดันไม่น้อย เพราะว่านัดชิงชนะเลิศ มีนักกีฬาไทยลงแข่งขันถึง 3 รายการ คือ ประเภท หญิงเดี่ยว ที่ “น้องครีม” บุศนันท์ แพ้อินโดนีเซีย รวมถึงทีมคู่ผสมก็แพ้อีก ดังนั้นจึงเหลือเพียงแค่ตัวผมที่มีลุ้นเหรียญทอง ซึ่งเป้าหมายของสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ก็วางไว้ 1 เหรียญทองอยู่แล้ว และการเจอกับ ฮยอม รับบูกา จากอินโดนีเซียอีกไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาชนะ แต่สุดท้ายผมก็ผ่านนัดนั้นมาได้ รู้สึกโล่งใจ และภูมิใจมากกับเหรียญทองเหรียญนี้”

พร้อมกันนี้ขนไก่วัย 23 ปี กล่าวต่อไปด้วยว่า “มันเป็นโอกาสดีที่สุดที่จะคว้าแชมป์ซีเกมส์ เนื่องจากนักกีฬาระดับโลกล้วนอยู่ในภูมิภาคนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ลี ชอง เหวย มือ 1 ของโลกชาวมาเลเซีย หรือว่า คู่แข่งสุดหินอย่างนักกีฬาจากอินโดนีเซีย ที่ต่างติดอันดับ 1-8 ของโลก ไปแข่งขันซูเปอร์ซีรีส์ ไฟนอลส์ ที่ประเทศมาเลเซีย ทำให้โอกาสเปิดกว้างมากสำหรับผม จริงๆ อีกอย่างที่ผมรู้สึกเสียดายในปีนี้คือการเข้าร่วมซูเปอร์ซีรีส์ ไฟนอลส์ เนื่องจากผมมีอันดับอยู่ที่ 10 จึงพลาดเข้าร่วมรายการ ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าจะมีโอกาสอีกครั้งในปีหน้า”

หลังคว้าแชมป์ซีเกมส์ ครั้งนี้ “เจ้าสอง” ถูกจับตามองว่าจะเป็นตัวแทนที่จะก้าวมารั้งตำแหน่งนักกีฬามือ 1 ของประเทศไทย ต่อจาก “ซูเปอร์แมน” บุญศักดิ์ พลสนะ มือ 7 ของโลกที่เริ่มโรยราลงไปทุกวัน โดยมือ 12 ของโลกยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เป้าหมายของเขา “สำหรับพี่แมนอาจจะมีอายุมากขึ้น แต่ฝีมือของเขาไม่ได้ตกลง สิ่งที่หายไปอาจเป็นสภาพร่างกายที่ไม่สดเหมือนก่อน และผมไม่คิดว่าเป้าหมายของผมจะต้องขึ้นเป็นมือ 1 ของไทย หากแต่มีเป้าหมายที่สูงกว่านั้น ทุกวันนี้แม้ว่าจะจบซีเกมส์ไปแล้ว แต่ผมยังคงทำการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2014 ที่จะแข่งขันเดือนสิงหาคมนี้”

“ตอนนี้ผมวางแผนสำหรับปีหน้าไว้แล้ว คือต้องติด 1 ใน 10 ของโลกให้ได้ ซึ่งผมเองก็มีความมั่นใจว่าเป็นไปได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ และสุดท้ายผมต้องการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล มันเป็นความฝันอันสูงสุดของนักกีฬาทุกคน และผมยังต้องการฝึกตัวเองให้หนักยิ่งขึ้นไปอีก เพราะอยากประสบความสำเร็จรายการนี้ ไม่ได้อยากแค่เข้าไปแข่งขันด้วยเฉยๆ”

นอกจากนี้แชมป์ซีเกมส์คนล่าสุดยังยอมรับว่านักกีฬาไทยส่วนใหญ่ รวมถึงตนเองด้วยมักมีปัญหาในเรื่องของการแบกรับความกดดันระหว่างการแข่งขันจนเล่นผิดฟอร์มบ่อยครั้งว่า “ส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างที่หลายคนมองว่าความกดดันเป็นปัญหาใหญ่ของนักกีฬาไทย และอาจรวมผมด้วย แต่ทุกคนก็มีวิธีการรับมือกับสิ่งเหล่านี้แตกต่างกันไป ส่วนตัวผมเมื่อก่อนยอมรับว่าวอกแวกมากอาจเป็นเพราะประสบการณ์ระดับสูงมีน้อย บางครั้งได้เจอกับนักกีฬาเก่งๆ เราก็มีเกรง มีหวั่นไหวบ้าง ทว่าหลังลงสนามไปเรื่อยๆ เห็นความผิดพลาดของตัวเองในหลายครั้งนำมาปรับแก้ ปัจจุบันอาจจะไม่ตื่นเต้นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว หลายอย่างเริ่มลงตัว ตอนนี้ผมมั่นใจว่ามีสมาธิจดจ่ออยู่กับเกมการแข่งขันมากขึ้น ผิดพลาดน้อยลง”

ขณะเดียวกัน “เจ้าสอง” ยังแสดงความมั่นใจในรูปแบบการเล่นของตัวเองที่เน้นเกมรุกเป็นหลักด้วยว่า “ผมเชื่อว่าปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ดีของผม แต่ปัญหาคือผมลงแข่งขันรายการระดับสูงน้อยเกินไป ซึ่งปี 2014 ผมวางแผนไว้ว่าจะพยายามฝึกซ้อมให้หนักขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายมากขึ้นไปอีก รวมทั้งยังตั้งใจว่าจะลงสนามรายการใหญ่ให้มากขึ้นกว่าเดิม ส่วนสไตล์การเล่นในปัจจุบันนั้นคิดว่าไม่มีปัญหา เพราะเล่นแบบเน้นเกมรุกมาโดยตลอด อาจต้องปรับปรุงเรื่องความแน่นอนให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่ผลงานจะได้ดียิ่งขึ้นไปอก

กำลังโหลดความคิดเห็น