xs
xsm
sm
md
lg

ทิสโก้แนะลดพอร์ตทอง-น้ำมัน เชียร์หุ้น “ญี่ปุ่น-เอเชียเหนือ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ทิสโก้แนะลงทุนหุ้นญี่ปุ่น-เอเชียเหนือเพิ่ม แต่ลดพอร์ตทองคำ-น้ำมัน ระบุปัจจัยหนุนเพียบ ทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กำไรบริษัทจดทะเบียน และการส่งออก ขณะที่ทองคำ-น้ำมันกร่อย แนวโน้มราคาไม่จูงใจ

นายคมศร ประกอบผล นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส ทิสโก้ เวลธ์ เปิดเผยว่า บริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่น และเอเชียเหนือ ซึ่งอยากแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น และซื้อสะสมตลาดหุ้นเอเชียเหนือมากขึ้น ในขณะเดียวกันควรลดน้ำหนักการลงทุนในทองคำ และน้ำมันลง

สำหรับตลาดหุ้นญี่ปุ่นในปัจจุบันน่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการลงทุนที่ดี หลังจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เริ่มเห็นผลมากขึ้น

นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 แล้ว 98 บริษัท (ของปีปฏิทิน) โดยผลกำไรรวมออกมาดีกว่าคาด 15.26% และมีบริษัทที่ผลประกอบการดีกว่าคาดถึง 65 จาก 98 บริษัท ขณะที่ตลาดคาดการณ์การเติบโตของผลประกอบของปี 2556 จะอยู่ที่ 60%

ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเหนือ ซึ่งประกอบด้วย จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และเกาหลีใต้ มีความน่าสนใจลงทุนไม่แพ้กัน แม้จะมีความกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ที่ทำให้ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ถูกเทขายอย่างหนักเพื่อลดความเสี่ยงก็ตาม แต่เชื่อว่าตลาดหุ้นเอเชียเหนือจะได้ผลกระทบเพียงระยะสั้น เนื่องจากประเทศในกลุ่มดังกล่าวมีอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ และดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยจำกัดความเสี่ยงจากการไหลออกของเงินทุนต่างชาติ

“ถ้าดูจากความเคลื่อนไหวของค่าเงินเอเชียเหนือ เช่น เงินวอนของเกาหลีใต้ และดอลลาร์ไต้หวันในช่วงเดือน พ.ค. ถึงเดือน ส.ค.ในปีที่แล้ว ถึงแม้ตลาดมีความกังวลต่อการชะลอ QE ในครั้งแรก แต่ค่าเงินของประเทศเหล่านี้ที่อ่อนค่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ประเทศในกลุ่มเอเชียเหนือยังนับว่าเป็นประเทศส่งออกสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเครื่องจักรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะเป็นที่ต้องการอย่างมากในช่วงเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และค่าเงินที่มีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะสามารถกระตุ้นยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ และยุโรปอีกด้วย” นายคมศรกล่าว

นายคมศรกล่าวอีกว่า ส่วนการลดน้ำหนักการลงทุนในทองคำและน้ำมันนั้น เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยที่จะสนับสนุนให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะยาว โดยราคาทองคำที่เริ่มมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้างนั้น มองว่าเป็นเพียงระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนโยกย้ายเงินลงทุนระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยง ดังนั้นในช่วงจังหวะที่ราคาขยับขึ้นมาบ้างจึงแนะนำให้ขายออก

“เรายังคงแนะนำให้ใช้การปรับฐานของตลาดหุ้นในรอบนี้เพื่อเข้าลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยเราเชื่อว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะสามารถคงทิศทางการขยายตัวของผลประกอบการได้ในระดับที่ดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และคาดว่าค่าเงินเยนจะกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางการอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ จากประเด็นการชะลอ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) รวมถึงตลาดหุ้นเอเชียเหนือ นำโดยจีนซึ่งเศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่ง และความกังวลเกี่ยวกับหนี้เสียหรือปัญหาฟองสบู่ได้ถูกสะท้อนไปใน valuation มากแล้ว ทำให้แนวโน้มที่ดัชนีจะฟื้นตัวมีเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การส่งออกของประเทศเกาหลีใต้ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดเอเชียเหนือโดดเด่นขึ้นมา ขณะที่ไต้หวันจะได้รับอานิสงส์จากการเป็นฐานการผลิตแห่งใหม่ของบริษัทแอปเปิล (Apple) ในการผลิตไอโฟนรุ่นใหม่” นายคมศรกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น