บลจ.วรรณแนะปรับพอร์ตรับปัจจัยการเมืองไทยและต่างประเทศ มองหุ้นไทยราคาถูกหาจังหวะเข้าลงทุน ขณะที่ตราสารหนี้เน้นลงทุนระยะสั้นรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด รายงานภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนที่น่าสนใจล่าสุดว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังมีความผันผวนสูงจากตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดการณ์จากอาทิตย์ก่อนหน้า ตามด้วยตัวเลขค้าปลีกที่ดีกว่าคาดการณ์ โดยยอดค้าปลีกโดยไม่รวมยอดขายรถที่หดตัวจากสภาพอากาศปรับตัวสูงขึ้นถึง 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยที่ตลาดคาดว่าจะเติบโตเพียง 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และการประกาศผลประกอบการของบริษัทที่เริ่มทยอยประกาศออกมา
ด้านยุโรปอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษเดือน พ.ย.ปรับเข้าสู่เป้าหมายของ BOE โดยเพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้าใกล้เคียงกับอัตราเงินเฟ้อระยะยาวของ BOE ที่ 2.0% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของยูโรโซนเดือน ธ.ค.ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า ขณะที่ตลาดและครั้งก่อนหน้าเติบโตอยู่ที่ 0.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า อัตราการเติบโตการผลิตภาคอุตสาหกรรมของ
โดยประเทศอิตาลีเติบโตสูงกว่าคาดมาอยู่ที่ 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า จากคาดการณ์ไว้ที่ 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า และก่อนหน้านี้หดตัวอยู่ที่ 0.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า สะท้อนถึงการเติบโตของเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยภาครัฐระยะ 3 ปีของอิตาลีที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดตั้งแต่ปี 2554 อยู่ที่ 1.51% ลดลงจาก 1.79% จากการประมูลขายเดือน พ.ย.
ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นรายงานซากุระของประเทศญี่ปุ่นสะท้อนมุมมองเศรษฐกิจที่ดีกว่ารายงานฉบับก่อนหน้า โดยเป็นการแสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในทุกภูมิภาค ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน พ.ย.ของญี่ปุ่นเป็นการขาดดุลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ สะท้อนถึงแนวโน้มการอ่อนค่าของค่าเงินเยนที่ทําให้การนําเข้าเร่งตัวขึ้นและเป็นการเพิ่มขึ้นของการบริโภคก่อนที่จะมีการขึ้น VAT แต่ยังไม่ส่งผลต่อการส่งออกมากนัก อีกประเด็นที่น่าจับตามองคือการเลือกตั้งในเขต Tokyo ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ก.พ. โดยนาย Morihiro ได้เริ่มโปรโมตการลงสมัครของตนและได้แสดงถึงจุดยืนในการต่อต้านโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาคพลังงานในอนาคต
ส่วนเศรษฐกิจจีน ยอดสินเชื่อใหม่สกุลเงินหยวนของจีนปรับลดลงอยู่ที่ 4.83 ล้านล้านหยวน จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 6.00 ล้านล้านหยวน และก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นที่ 6.25 ล้านล้านหยวน เป็นการสะท้อนถึงความพยายามภาครัฐที่จะควบคุมการกู้ยืม อย่างไรก็ดี อัตราส่วนของ shadow banking ยังคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่ สศช.ปรับประมาณการ GDP ไทยปี 2557 ลงอยู่ที่ 3.1% จากเดิมที่ประเมินอยู่ที่ 4.0-5.1% ในช่วงเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองที่ยืดเยื้อ
ทั้งนี้ บลจ.วรรณ ยังแนะนำการลงทุนในช่วงนี้ว่าคงระดับน้ำหนักการลงทุนในลักษณะ ปลอดภัย (Conservative) เพื่อป้องกันความเสี่ยงในระยะกลาง เพื่อรอความแน่ชัดทางการเมือง และผลกระทบจากการจัดสรรเงินหลังจากการเริ่มการลดวงเงินการซื้อสินทรัพย์ (QE tapering) ในวันที่ 29 มกราคม 2557
โดยการลงทุนใน Fixed income เน้นการลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารหนี้ระยะสั้น จากการที่ตลาดคาดการณ์ว่า กนง.จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากปัจจัยการเมืองไทยยังหาข้อสรุปไม่ได้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะกลางและระยะยาวมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทําให้ราคาพันธบัตรปรับลดลงได้
ส่วนการลงทุนในหุ้นนั้น มูลค่าของตลาดหุ้นไทยในขณะนี้อยู่ในระดับที่เริ่มน่าสนใจ ประกอบกับการเป็นตลาดที่อยู่ในกลุ่มที่นักลงทุนต่างชาติคาดหวังน้อย จึงเป็นปัจจัยบวกที่ทําให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาลงทุนได้เมื่อสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกเริ่มคลี่คลายลง ขณะที่ตัวเลขการส่งออกคาดว่าจะออกมาดีจากแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาท