ประกันภัยรุกตลาดรถหรู-บิ๊กไบค์ไฮเอนด์ เน้นราคา 7-40 ล้านบาทขึ้นไป เชื่อเป็นตลาดที่กำลังโตและทำกำไรได้ ไทยศรีประกันภัยลั่นปีหน้าเบี้ยประกันโต 6% ส่วนพอร์ตลูกค้ารถหรูอาจโตถึง 20% จากฐานลูกค้าเดิม 1 หมื่นราย มั่นใจนโยบายภาครัฐชะงักไม่กระทบผลงาน พร้อมปรับกลยุทธ์เน้นเพิ่มประกันรายย่อยบ้านและที่อยู่อาศัยเพิ่ม และปรับลดประกันรถเล็กลง เหตุความเสียหายสูงทำกำไรไม่ได้
นายนที พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทในปีหน้าคาดว่าจะมีเบี้ยประกันเติบโตขึ้นประมาณ 6% จากเดิมในปีนี้มีเบี้ยประกันรับรวมอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้าบริษัทจะเน้นการปรับเพิ่มพอร์ตของการรับประกันภัยประเภทนอนมอเตอร์มากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อยประเภทบ้านและที่อยู่อาศัย โดยตั้งเป้าให้การรับประกันภัยประเภทนี้เพิ่มขึ้นเป็น 45% จากเดิมที่มีอยู่ 40% ซึ่งจะส่งผลให้การรับประกันภัยรถยนต์ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 55% จากเดิมที่มีอยู่ 60%
“ในปีนี้เบี้ยเราจะต่ำกว่าเป้า แต่กำไรเราเข้าเป้าคือประมาณ 180 ล้านบาท และจะยังคงเน้นอะไรที่ทำกำไร โดยปีหน้าเราต้องการปรับเพิ่มน้ำหนักของการรับประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์มากขึ้นเพื่อให้พอร์ตมีความสมดุล ซึ่งในส่วนของการประกันภัยรถยนต์จะปรับลดในส่วนของรถยนต์เล็กออกไป เนื่องจากเป็นส่วนที่ไม่สามารถทำกำไรได้ เนื่องจากมีความเสี่ยงจากการสูญเสียต่อเบี้ยประกันภัยสูงมาก และจะมีการปรับเพิ่มการรับประกันภัยรถยนต์หรูสำหรับลูกค้าระดับไฮเอนด์มากขึ้น เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่น่าจะประสบความสำเร็จ”
ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อภาพรวมการขยายตัวของธุรกิจประกันภัยในปีหน้า ทั้งการลงทุนภาครัฐทั้งโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านที่จะต้องล่าช้าออกไปนั้นเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทเนื่องจากไม่ได้มีการประเมินรายการเหล่านี้เข้าไปในแผนธุรกิจ หากรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารแล้วมีการสานงานต่อและบริษัทสามารถเข้าไปรับงานโครงการภาครัฐได้ก็ถือว่าเป็นส่วนที่โชคดีไป
นายนที กล่าวอีกว่า สำหรับรถยนต์หรูระดับไฮเอนด์ที่บริษัทจะเข้าไปทำตลาดเพิ่มเติมในปีหน้า จะเป็นรถยนต์ที่มีราคาตั้งแต่ 7-40 ล้านบาทเป็นต้นไป โดยกำหนดทุนประกันขั้นต่ำ 5 ล้านบาทเพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และกำลังซื้อสูง และมีอัตราความเสียหายต่ำเพราะกลุ่มลูกค้ามีความระมัดระวังในการใช้รถ ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าประเภทนี้อยู่แล้วประมาณ 10,000 ราย และคาดว่าในปีหน้าลูกค้ากลุ่มนี้จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20%
สำหรับกลุ่มรถยนต์ที่บริษัทรับประกันนอกจากจะเป็นรถสปอร์ต รถเบนซ์ แล้ว บริษัทยังทำตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมและมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นรถบิ๊กไบค์ที่บริษัทรับประกันจะมีอยู่ด้วยกันประมาณ 4 แบรนด์ ได้แก่ ดูคาติ คาวาซากิ ฮาร์เลย์ และไทรอัมพ์
“ตลาดประกันภัยรถยนต์ระดับไฮเอนด์ที่ผ่านมามีการทำตลาดอยู่ประมาณ 8บริษัท แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ 2-3 บริษัท ซึ่งในปีหน้าจะทำให้ตลาดของเราขยายได้มากขึ้นและหากดูความนิยมและอัตราการจองในช่วงมอเตอร์โชว์และรถยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังจะออกมาทำตลาดทำให้บริษัทจะมีโอกาสในการทำรายได้จากประกันภัยรถยนต์กลุ่มนี้มากขึ้น แต่รถในเซกเมนต์นี้จะมีการตรวจสอบ และคัดเลือกการรับประกันอย่างรอบคอบ เพราะถึงแม้อัตราการเกิดอุบัติเหตุจะไม่สูงมากนัก แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งสูงมาก ซึ่งต้องดูทั้งรุ่นและยี่ห้อของรถ รวมถึงประวัติและอายุของผู้ขับขี่ด้วย”
ทั้งนี้ ล่าสุดเพื่อเป็นการเสริมบริการสำหรับการแข่งขันในปีหน้า บริษัทได้เปิดตัวการให้บริการเสริมแก่ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2557 เป็นต้นไป โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับลูกค้าใหม่ และลูกค้าเดิมที่ใช้บริการกรมธรรม์ EASYELITE CAR? กับ EASY RIDER INSURANCE? โดยได้ร่วมกับบริษัท Assist America ซึ่งเป็นผู้ให้บริการพิเศษในการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ลูกค้าทั่วโลกในกรณีที่ลูกค้าผู้เอาประกันได้เดินทางไปพักอาศัยเป็นระยะทางมากกว่า 150 กิโลเมตร