บลจ.กรุงไทย และ ซี.พี.แลนด์เผย “กองทุนอสังหาฯ ซี.พี.ทาวเวอร์ โกรท” พร้อมเทรด 16 ธ.ค.นี้ ในราคาหน่วยละ 10.15 บาท ชี้กองทุนมีจุดเด่นอยู่ที่การลงทุนในสินทรัพย์ที่ผสมผสานระหว่างศูนย์การค้ากับอาคารสำนักงานให้เช่า สร้างสมดุลของรายได้ค่าเช่าจาก 2 ธุรกิจ พร้อมทั้งยังกระจายการลงทุนไปใน 3 ทำเลกลางเมืองที่มีความหลากหลาย ทั้งสีลม รัชดาภิเษก-พระราม 9 และพญาไท มั่นใจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอ
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี.ทาวเวอร์ โกรท หรือ CPTGF เปิดเผยว่า หน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPTGF จะเข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก ในวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2556 หลังจากการเสนอขายให้ประชาชนทั่วไป (IPO) ในราคาหน่วยละ 10.15 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPTGF เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารประเภทสำนักงานและศูนย์การค้า เป็นระยะ 30 ปี ในทรัพย์สิน 3 โครงการภายใต้การบริหารของ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี ประกอบด้วย การลงทุนในสิทธิการเช่าอายุ 30 ปีในโครงการ ซี.พี.ทาวเวอร์ 1 สีลม โครงการ ซี.พี.ทาวเวอร์ 2 ฟอร์จูนทาวน์ รัชดาภิเษก-พระราม 9 และโครงการ ซี.พี.ทาวเวอร์ 3 พญาไท รวมมูลค่า 9,815 ล้านบาท
“เราเชื่อมั่นว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPTGF จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีอีกครั้ง หลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากต้องยอมรับว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สามารถตอบสนองนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอได้เป็นอย่างดี ในภาวะที่ภาพรวมการลงทุนของตลาดหุ้นยังคงผันผวนจากสถานการณ์ทางการเมือง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งล่าสุด ยังมีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.50% เหลือ 2.25% ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทยอยประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝาก ทำให้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่คิดจะพักการลงทุนในหุ้นหรือทอง โดยเลือกที่จะฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ อาจจะมองหาช่องทางการลงทุนใหม่ในช่วงที่ดอกเบี้ยปรับตัวลดลงเช่นนี้ ซึ่งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์คือคำตอบที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์”
ทั้งนี้ นอกจากผลตอบแทนรายได้ค่าเช่าจากธุรกิจศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานให้เช่าจะค่อนข้างแน่นอนและมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องแล้ว นักลงทุนยังไว้วางใจประสบการณ์และการบริหารจัดการทรัพย์สินของ บมจ.ซี.พี.แลนด์ ที่ยาวนานมากว่า 25 ปี รวมถึงขนาดของกองทุนที่มีมูลค่า 9,815 ล้านบาท ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดสำหรับกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ ยังสนับสนุนความน่าสนใจให้เข้าลงทุนในแง่ของสภาพคล่องที่สามารถรองรับความต้องการของนักลงทุนสถาบันได้อีกด้วย
ด้าน นายสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนที่จองซื้อหน่วยลงทุน ที่ให้ความไว้วางใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองทุน CPTGF แม้ว่าในช่วงระยะเวลาจองซื้อจะเป็นช่วงที่มีความไม่แน่นอนจากเหตุการณ์ทางการเมือง แต่ผู้ลงทุนก็ยังให้การตอบรับหน่วยลงทุนของกองทุนเป็นอย่างดี ซึ่งในฐานะของผู้บริหารทรัพย์สิน บมจ.ซี.พี.แลนด์ ขอให้ความมั่นใจแก่ผู้ลงทุนว่า บริษัทฯ จะบริหารจัดการทรัพย์สินทั้ง 3 โครงการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจและผลักดันให้กองทุนมีผลการดำเนินงานดีอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพและโอกาสการเติบโตในอนาคตของทรัพย์สินทั้ง 3 โครงการ ทำให้นักลงทุนให้การตอบรับอย่างน่าพอใจ แม้ว่าช่วงเวลาที่เราเสนอขายหน่วยลงทุนในช่วง IPO นั้นจะเป็นช่วงที่มีความไม่แน่นอนจากเหตุการณ์ทางการเมืองที่อาจส่งผลต่อความมั่นใจของผู้ลงทุนก็ตาม ซึ่งหลังจากที่กองทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว เราก็เชื่อมั่นว่าจะมีนักลงทุนให้ความสนใจกองทุนรวม CPTGF ในวงกว้างขึ้น เพราะกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สามารถที่จะตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอ และเป็นผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก โดยความเสี่ยงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยจากการคาดการณ์ของหน่วยงานเศรษฐกิจจะเติบโตเพียงแค่ 3% ในปี2556 แต่ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานให้เช่ายังคงมีทิศทางการเติบโตที่ดีต่อไป โดยปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่ทำให้นักลงทุนจากกลุ่มประเทศอาเซียนขยับขยายการลงทุน และทำให้ความต้องการอาคารสำนักงานเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทั้งหมดนั้นจะเป็นโอกาสที่สำคัญของกองทุนรวม CPTGF ในอนาคต