คาดดอกเบี้ยต่ำติดดินถึงปีหน้า แนะลงทุนกองตราสารหนี้ระยะสั้นรอดูความชัดเจนช่วงตลาดหุ้นผันผวน บลจ.วรรณเปิดขายกอง 3 เดือนรอบใหม่ชูผลตอบแทน 2.85% ต่อปี ส่วน บลจ.กรุงไทยเปิดกอง 6 เดือนให้ยิลด์ 3.05% ต่อปี พร้อมเปิดขายรอบใหม่กอง 6 เดือน ยิลด์ 2.20%
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทอยากแนะนำนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ต่ำ ควรรอดูความชัดเจนของปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศในเวลานี้ และอาจพิจารณาลงทุนในกองทุนเปิดตราสารหนี้ประเภท Rollover ที่มีอายุการลงทุนสั้นๆ ประมาณ 3 เดือน
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนอยู่มาก จากแรงกดดันทางด้านการเมืองภายในประเทศและกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ตั้งแต่ต้นปีถึง 26 พ.ย. 56 นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นสุทธิแล้วกว่า 147,000 ล้านบาท ทำให้ประเมินว่าดัชนี SET Index น่าจะมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบที่ไม่กว้างมากนักในช่วงเวลานี้
นอกจากนี้ คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำที่ 2.25% ตลอดจนถึงครึ่งแรกของปี 2557 หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมา 0.25% ในวันที่ 27 พ.ย. 56 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่เศรษฐกิจไทยใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2556 ยังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกและการบริโภคการลงทุนภายในประเทศที่ชะลอตัวลง
“คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 จากแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน และการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) น่าจะชะลอนโยบายการเงินเชิงปริมาณแบบผ่อนคลาย (QE) ทำให้ประเมินว่าการลงทุนในกองทุนเปิดตราสารหนี้ระยะสั้น ประมาณ 3 เดือน จะเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการพักเงินเพื่อรอความชัดเจน” นายวิน กล่าว
นายวินกล่าวอีกว่า สำหรับในเดือนนี้บริษัทจะทำการเปิดรับคำสั่งซื้อและขายคืนหน่วยลงทุนกองทุนเปิด วรรณ ตราสารหนี้ 3M2 (1FIX-3M2) ในระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-6 ธ.ค. 56 โดยกองทุนเปิด วรรณ ตราสารหนี้ 3M2 (1FIX-3M2) จะลงทุนในเงินฝากของธนาคารต่างประเทศและตั๋วแลกเงินที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง อายุตราสารประมาณ 3 เดือน โดยให้ผลตอบแทนภายหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 2.85% ต่อปี
สำหรับตราสารที่คาดว่าจะลงทุนในรอบการลงทุนครั้งนี้ ได้แก่ เงินฝาก Bank of China โดยมีสัดส่วนการลงทุน 25% เงินฝากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (สาขาฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% ตั๋วแลกเงินบริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20% ตั๋วแลกเงินบรษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 25% และตั๋วแลกเงินบริษัท ราชธานี ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10%
KTAM ขายตราสารหนี้ ตปท. 6 เดือนชู 3.05% ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 70 (KLTSUPB70) ในวันที่ 4 -11 ธันวาคม 2556 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารต่างประเทศประเภทเงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Standard Chartered Bank, MTN ออกโดย ICBC Asia Ltd. และ ECP ค้ำประกันโดย Gazprombank OJSC ในสัดส่วน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงินของสถาบันการเงินและบริษัทเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.05% ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ (Roll Over) ของกองทุนเปิดกรุงไทย ประจำ 6 เดือน คุ้มครองเงินต้น 3 (KTFIX6M3) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 6 ธันวาคม 2556 อายุ 6 เดือน เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ในสัดส่วน 42% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.20% ต่อปี
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างต่ำ และต้องการพักเงินในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนจากปัจจัยทางการเมือง เงินลงทุนในต่างประเทศมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทอยากแนะนำนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ต่ำ ควรรอดูความชัดเจนของปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศในเวลานี้ และอาจพิจารณาลงทุนในกองทุนเปิดตราสารหนี้ประเภท Rollover ที่มีอายุการลงทุนสั้นๆ ประมาณ 3 เดือน
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนอยู่มาก จากแรงกดดันทางด้านการเมืองภายในประเทศและกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ตั้งแต่ต้นปีถึง 26 พ.ย. 56 นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นสุทธิแล้วกว่า 147,000 ล้านบาท ทำให้ประเมินว่าดัชนี SET Index น่าจะมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบที่ไม่กว้างมากนักในช่วงเวลานี้
นอกจากนี้ คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำที่ 2.25% ตลอดจนถึงครึ่งแรกของปี 2557 หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมา 0.25% ในวันที่ 27 พ.ย. 56 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่เศรษฐกิจไทยใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2556 ยังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกและการบริโภคการลงทุนภายในประเทศที่ชะลอตัวลง
“คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 จากแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน และการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) น่าจะชะลอนโยบายการเงินเชิงปริมาณแบบผ่อนคลาย (QE) ทำให้ประเมินว่าการลงทุนในกองทุนเปิดตราสารหนี้ระยะสั้น ประมาณ 3 เดือน จะเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการพักเงินเพื่อรอความชัดเจน” นายวิน กล่าว
นายวินกล่าวอีกว่า สำหรับในเดือนนี้บริษัทจะทำการเปิดรับคำสั่งซื้อและขายคืนหน่วยลงทุนกองทุนเปิด วรรณ ตราสารหนี้ 3M2 (1FIX-3M2) ในระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-6 ธ.ค. 56 โดยกองทุนเปิด วรรณ ตราสารหนี้ 3M2 (1FIX-3M2) จะลงทุนในเงินฝากของธนาคารต่างประเทศและตั๋วแลกเงินที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง อายุตราสารประมาณ 3 เดือน โดยให้ผลตอบแทนภายหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 2.85% ต่อปี
สำหรับตราสารที่คาดว่าจะลงทุนในรอบการลงทุนครั้งนี้ ได้แก่ เงินฝาก Bank of China โดยมีสัดส่วนการลงทุน 25% เงินฝากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (สาขาฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% ตั๋วแลกเงินบริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20% ตั๋วแลกเงินบรษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 25% และตั๋วแลกเงินบริษัท ราชธานี ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10%
KTAM ขายตราสารหนี้ ตปท. 6 เดือนชู 3.05% ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 70 (KLTSUPB70) ในวันที่ 4 -11 ธันวาคม 2556 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารต่างประเทศประเภทเงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Standard Chartered Bank, MTN ออกโดย ICBC Asia Ltd. และ ECP ค้ำประกันโดย Gazprombank OJSC ในสัดส่วน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงินของสถาบันการเงินและบริษัทเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.05% ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ (Roll Over) ของกองทุนเปิดกรุงไทย ประจำ 6 เดือน คุ้มครองเงินต้น 3 (KTFIX6M3) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 6 ธันวาคม 2556 อายุ 6 เดือน เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ในสัดส่วน 42% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.20% ต่อปี
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างต่ำ และต้องการพักเงินในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนจากปัจจัยทางการเมือง เงินลงทุนในต่างประเทศมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี