บลจ.กสิกรไทยเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศต่อเนื่อง ลงทุนระยะสั้น ชูโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุด
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในวันที่ 5-11 พฤศจิกายน 2556 บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการต่อเนื่องอีก 3 กองทุน ทั้งอายุ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี พร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ดีเค (KFI3MDK) โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.75% ต่อปี กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอพี (KFF6MAP) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.00% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี ซีเอฟ (KFF1YCF) ซึ่งให้โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.20% โดยผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
ทั้งนี้ กสิกรไทยยังคงให้ความสำคัญต่อการเฟ้นหาตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจที่สุดเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุใกล้เคียงกัน โดยกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการที่เสนอขายในสัปดาห์นี้ยังคงสามารถให้ผลตอบแทนเทียบเท่ากับกลุ่มกองทุนที่เสนอขายไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ดีเค (KFI3MDK) จะลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า เงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง และตราสารหนี้ Itau Unibanco S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ A และ BBB+ ตามลำดับ รวมถึงตราสารหนี้ประเทศไทยของ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทย ที่ระดับ AA- และ A+ ตามลำดับ ด้านตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เอพี (KFF6MAP) จะเข้าลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วย เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า เงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง และตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย ด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ Banco Santander (Brasil) S.A., ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A. และตราสารหนี้ Banco ABC Brasil S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ BBB, BBB- และ BBB- ตามลำดับ
สำหรับกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี ซีเอฟ (KFF1YCF) จะเข้าลงทุนในเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า เงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง ตราสารหนี้ Itau Unibanco S.A., ประเทศบราซิล และตราสารหนี้ Banco Santander (Brasil) S.A., ประเทศบราซิล ด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ Banco do Brasil S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ BBB โดยทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
นอกจากนี้ เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยจะเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ดีเอฟ (KPPTF3MDF) โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และบางส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.50% ต่อปี