xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเติบโตต่อเนื่อง อเบอร์ดีนชี้ราคาถูก-ให้ยิลด์ดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.อเบอร์ดีน เปิดตัว กองทุน "เจแปน ออพพอร์ทูนิตี้ส์ ฟันด์" ชู ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเติบโต จากแผนกระตุ้นจากภาครัฐ เน้นลงทุนหุ้นบริษัทชั้นนำ 32 ตัว มีกำไรเติบโต 15% เน้นกลุ่มบริโภค อุตสาหกรรม สุขภาพ ชี้ มองราคายังไม่สูง ให้ผลตอบแทนดีระยะยาว

นายเคตะ คูโบตะ ผู้จัดการกองทุน ทีมตราสารทุนประจำประเทศญี่ปุ่น บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยว่า การที่นักลงทุนทั่วโลกกลับมาให้ความสนใจต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นอีกครั้งจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ‘Abenomics’ หลังจากที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นถูกลดบทบาทความสำคัญในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาส่งผลดีต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่างมาก โดยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้มุ่งแก้ปัญหาหลักของเศรษฐกิจญี่ปุ่นใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) หนี้สูง 2) ประชากรเข้าสู่สังคมสูงอายุ และ 3) ภาวะเงินฝืด และปลดล็อคอุปสรรคให้กับบริษัทจดทะเบียนในญี่ปุ่นใน 5 ด้าน คือ 1) ค่าเงินเยนแข็งในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี1990 เฉลี่ยแข็งค่าปีละ 2.5% ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัทญี่ปุ่น 2) ภาษีนิติบุคคลที่ค่อนข้างสูง 38% 3) ไม่ได้เน้นการทำการค้าเสรีกับประเทศอื่นในช่วงที่ผ่านมาเพราะมุ่งเน้นดูแลเศรษฐกิจในประเทศ 4) แรงงานในญี่ปุ่นที่ไม่มีความยืดหยุ่น และ 5) ต้นทุนพลังงานไฟฟ้าที่ค่อนข้างสูงหลังจากที่เกิดปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้องนำเข้าพลังงานจากภายนอกซึ่งมีต้นทุนที่แพงและกระทบต้นทุนของบริษัทเช่นกัน

ทั้งนี้การกระตุ้นเศรษฐกิจแบบผ่อนคลายเชิงรุกของนายกอาเบะจะทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงซึ่งจะส่งผลดีต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในญี่ปุ่นซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งพิงการส่งออก ซึ่งจะทำให้กำไรบริษัทจดทะเบียนดีขึ้นทำให้มีเงินไปจ่ายให้กับพนักงานเพื่อไปจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาโบนัสในญี่ปุ่นได้ปรับขึ้นแล้วรอเพียงแค่การปรับขึ้นเงินเดือนของบริษัทขนาดกลางและเล็กที่จะตามบริษัทขนาดใหญ่มาหากมั่นใจในเศรษฐกิจ ซึ่งในญี่ปุ่นเริ่มเห็นสัญญาณการจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อสินค้ามากขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นเองก็เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวตามมา

นายเคตะ ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่น่าตื่นเต้น อย่างไรก็ตามบริษัทในญี่ปุ่นมีการปฏิรูปตัวเองอย่างเงียบๆ ซึ่งส่งผลดีให้ในปัจจุบันบริษัทหลายแห่งมีความสามารถในการฟื้นตัวได้เร็วจากการมีงบการเงินที่แข็งแกร่ง มีบรรษัทภิบาลที่ดีขึ้น และการมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเห็นได้จากการที่บริษัทหลายแห่งทำการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ใกล้ตลาดปลายทางสินค้ามากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นในช่วงก่อนหน้าซึ่งทำให้บริษัทในญี่ปุ่นยังสามารถมีผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องได้ในช่วงที่ค่าเงินเยนแข็งในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนในญี่ปุ่นเองก็มีความสามารถในการทำกำไรที่ดีต่อเนื่อง อัตราหนี้สินต่อทุนก็ปรับตัวลดลงกว่าครึ่ง กระแสเงินสดของบริษัทก็ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการคืนเงินให้นักลงทุนในรูปแบบการจ่ายเงินปันผลที่เพิ่มมากขึ้นรวมถึงการรับซื้อหุ้นคืน ซึ่งการคืนเงินในลักษณะนี้น่าจะยังคงมีให้เห็นกันอย่างต่อเนื่องในอนาคต

“ในขณะที่ราคาหุ้นก็ยังไม่แพงโดยปัจจุบันมีสัดส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (PE) ประมาณ 13 เท่า เมื่อเทียบกับแนวโน้มการเติบโตที่ดีของเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนในอนาคตถือว่าไม่แพง”

น.ส.รัตนวรรณ แสงกิติโกมล ผู้จัดการกองทุน บลจ. อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการขอจัดตั้ง กองทุนเปิดอเบอร์ดีน เจแปน ออพพอร์ทูนิตี้ส์ ฟันด์ (ABJO) ที่คาดว่าจะเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 13 - 26 ส.ค. 56 ลงทุนใน “กองทุนอเบอร์ดีนโกลบอล - เจแปนนิส เอคควิตี้ ฟันด์” ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นคุณภาพดีที่คัดสรรมาอย่างดีประมาณ 32 บริษัท จากทั้งหมดในตลาดกว่า 3,600 บริษัท ซึ่งบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทข้ามชาติที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในทุกภาวะเศรษฐกิจ โดยพอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักนั้นคาดว่าหุ้นในพอร์ตจะมีการเติบโตของกำไรสุทธิประมาณ 15% บนสมมติฐานค่าเงินเยนที่ระดับ 95 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ เน้นหุ้นกลุ่มบริโภค , อุตสาหกรรม , สุขภาพ

ดังนั้นหากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกอาเบะสำเร็จเงินเยนอ่อนค่าก็จะยิ่งส่งผลประโยชน์ต่อบริษัทในพอร์ตที่ลงทนอยู่ด้วยเช่นกัน และหากไม่สำเร็จก็จะไม่กระทบแต่ประการใดเพราะเป็นบริษัทชั้นนำในโลกที่มีความสามารถในการทำกำไรในช่วงที่เงินเยนแข็งค่ามาอย่างต่อเนื่อง

“ญี่ปุ่นถือเป็นตลาดที่ให้โอกาสที่ดีในการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่เน้นคุณค่า เนื่องจากกว่า 60% ของบริษัทญี่ปุ่นในปัจจุบัน ซื้อขายที่ราคาต่ำกว่าราคาทางบัญชี แม้ว่าดัชนี Topix จะปรับตัวขึ้นมาแล้วในระดับหนึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม”


กำลังโหลดความคิดเห็น