สื่อแดนปลาดิบเชื่อกระแสบันเทิงเกาหลีใต้ หรือ K-Pop ในแดนอาทิตย์อุทัย เริ่มจะอ่อนแรงลงเรื่อยๆ แล้ว นอกจากนั้นด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ค่าเงินเยนอ่อนตัวลง ก็ทำให้บริษัทจากเกาหลีใต้มีผลกำไรทางธุรกิจในญี่ปุ่นที่ลดน้อยลงไปด้วย
เมื่อไม่นานมานี้บันเทิงเกาหลีใต้เคยรุกญี่ปุ่นอย่างหนัก ชนิดที่ว่าสามารถพบเห็นดารา, ตัวอักษร และความบันเทิงจากประเทศเพื่อนบ้านแทบทุกหนทุกแห่งในญี่ปุ่น ตั้งแต่โฆษณาของศิลปินเพลงป๊อป, เครื่องสำอาง และเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เช่นเดียวกับที่มีคนญี่ปุ่นเริ่มเรียนภาษาเกาหลีมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้จะมีปัญหาการกระทบกระทั่งในเขตแดนทางทะเล และเสียงประท้วงของกลุ่มอนุรักษนิยมในประเทศอยู่บ้าง แต่ก็ดูเหมือนญี่ปุ่นจะไม่สามารถต้านทานการเข้ามาเปิดตลาดของเกาหลีใต้ได้เลย เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ดูจะเปิดรับการเข้ามาของสินค้าเกาหลีใต้ด้วยความเต็มใจ
อย่างไรก็ตามล่าสุดจากการเปิดเผยของสื่อญี่ปุ่น Today Japan ได้ยืนยันว่ากระแสเพลงเกาหลีใต้ในญี่ปุ่นเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ยอดขายของบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่อย่าง S.M. Entertainment ลดลงถึง 70% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คำถามสำคัญที่ว่า “ฟองสบู่ K-Pop ใกล้แตกแล้วหรือ?” จึงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
Livedoor News รายงานว่าแม้ในช่วงไตรมาสแรก S.M. Entertainment จะสามารถทำรายได้ถึง 44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้เลยกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นักวิเคราะห์ยังมองว่าธุรกิจดนตรีของเกาหลีใต้ในญี่ปุ่นเริ่มพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อระยะหลังกระแสนิยมที่เคยร้อนแรงของเหล่าศิลปินวัยรุ่นเริ่มไม่สดใสเหมือนก่อน เมื่อศิลปินเจ้าถิ่นยังสามารถครองความนิยมในหมู่แฟนๆ ได้อย่างเหนียวแน่น ขณะเดียวกันก็ดูเหมือนว่าคนฟังเพลงชาวญี่ปุ่น จะเริ่มตื่นเต้นกับศิลปินจากเกาหลีใต้น้อยลง
แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วปัญหาของ K-pop ในญี่ปุ่นอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องกระแสความนิยมเท่านั้น เพราะเหตุผลที่รายได้ของพวกเขา โดยเฉพาะรายได้ของ S.M. Entertainment ร่วงลงอย่างน่าใจหาย ก็อาจจะเกิดขึ้นจากค่าเงินเยนที่ลดต่ำลงในช่วงนี้ด้วย
“ไม่ว่าจะมองยังไงค่าเงินเยนที่อ่อนลงคือปัญหาหลักที่เกิดขึ้น” บรรณาธิการของนิตยสารญี่ปุ่นที่นำเสนอเรื่องราวของ K-Pop กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “จากข้อมูลของนักวิเคราะห์ในเกาหลีเองยืนยันว่าผลกำไร ของ S.M.มาจากต่างชาติถึง 70% และจากผลกำไรในต่างชาติทั้งหมดก็มาจากญี่ปุ่นถึง 50% ซึ่งนั้นเกิดขึ้นในยุคที่ค่าเงินเยนค่อนข้างแข็ง ตอนนี้บริษัทจึงค่อนข้างลำบากพอสมควร”
ซึ่งดูเหมือนว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะมาจากนโยบายทางเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ซึ่งเรียกกันว่า “อะเบะโนมิกส์” ที่เน้นการส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนของญี่ปุ่นที่ซบเซามากว่ายี่สิบปี และถึงกับทำให้ค่าเงินเยนที่เคยอยู่ที่ 80 เยน ต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯ ในปี 2012 ตกลงมาเป็น 102 เยน ต่อ 1 เหรียญฯ ในเดือน พ.ค. 2013 ซึ่งทำให้บริษัทญี่ปุ่นสามารถแข่งขั้นได้ในตลาดต่างประเทศ
ในเวลาเดียวกันประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องพบกับปัญหาในการส่งสินค้ามาขายที่ญี่ปุ่น และดูเหมือนว่า K-Pop เองก็คือเหยื่อของนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไป
ด้านโฆษกของ S.M.Entertainment ได้แสดงความเห็นตอบโต้ถึงกระแสที่ว่าบันเทิงเกาหลีใต้กำลังเจอกับปัญหาในตลาดเพลงญี่ปุ่น ด้วยการเปิดเผยว่าอันที่จริงแล้วทางบริษัทคาดการณ์รายได้ในไตรมาสแรกไว้ต่ำกว่านี้ด้วยซ้ำ และยังยืนยันว่ารายได้ในไตรมาสที่ 2 ของบริษัทถือว่าดีกว่านี้มาก ด้วยผลกำไรของศิลปินดังอย่าง Girls’ Generation และบอยแบนด์ SHINee ที่ยังคงไปได้ดีในตลาดเพลงญี่ปุ่น และได้ทัวร์คอนเสิร์ตในสถานที่จัดการแสดงใหญ่ๆ ในตลอดหน้าร้อนนี้
ถึงแม้ทาง S.M.Entertainment จะยืนยันว่ากระแส K-Pop ไม่ได้ตกจนน่าวิตกกังวล แต่นักวิเคราะห์ต่างมองว่าเส้นทางของเพลงเกาหลีใต้ในแดนอาทิตย์อุทัยอาจจะไม่ได้สดใสเหมือนตลอดหลายปีที่ผ่านมาอีกแล้ว และนโยบายค่าเงินเยนอ่อนจะกลายเป็นปัญหาที่ทำให้ผลกำไรของ K-Pop ลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา K-Pop ได้กลายเป็นสินค้าออกสำคัญของวงการบันเทิงเกาหลีใต้ แทนที่ซีรีส์ที่กระแสเริ่มตกลงไป ส่วนภาพยนตร์แทบจะเน้นตลาดในประเทศเป็นหลักไปแล้ว
จากตัวเลขที่เคยมีการประมาณการกันเอาไว้นั้น รายได้นอกประเทศ 99% ของเพลงเกาหลีใต้มาจากเอเชีย และในจำนวนนั้น 80% เป็นรายได้จากการทำงานที่ญี่ปุ่น ซึ่งหากค่าเงินเยนยังจะอ่อนแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ และเหล่าศิลปินแดนกิมจิยังไม่สามารถสร้างฐานความนิยมในญี่ปุ่นให้มั่นคงกว่านี้ วันคืนที่สดใสของ K-Pop ในญี่ปุ่นก็อาจจะเป็นเพียงอดีตที่แสนหวานเท่านั้น
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |