บลจ.วรรณประเมินครึ่งปีที่เหลือปัจจัยลบยังถาโถม ขณะที่ปัจจัยบวกมีน้ำหนักน้อยกว่า แต่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย คาดดัชนีแตะ 1,640 จุดปลายปีนี้
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. วรรณ จำกัด กล่าวว่า เราประเมินกรอบดัชนีหุ้นไทยจนถึงสิ้นปีนี้มีโอกาสเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,350-1,640 จุด ภายใต้ความผันผวนในระดับสูงจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ โดยในครึ่งปีแรก SET Index ปรับตัวสูงสุดที่ 1,649.77 จุด (21 พฤษภาคม 2556) และต่ำสุดที่ 1338.81 จุด ณ วันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา
สำหรับผลตอบแทน SET Index หากพิจารณาตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น 3.28% (ข้อมูล ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2556) เราประเมินสถานการณ์ในครึ่งปีหลังยังมีความผันผวนสูงจากปัจจัยลบที่มีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ยังไม่ชัดเจน รวมถึงการตัดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลโดยทั่วถึงทั้งหมดทุกภาคส่วนของรัฐบาล (Budget Sequestration) ของสหรัฐอเมริกา เพื่อจัดการหนี้สินของอเมริกาเองจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลง เนื่องจากการสร้างงานลงลด อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนลง ซึ่งคาดว่าน่าจะกระทบต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ ปัญหาการเมืองของตะวันออกกลางและอียิปต์ ซึ่งเป็นภูมิภาคสำคัญในการผลิตและส่งน้ำมันยังไม่ยุติลงก็ยังส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกในระยะนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีพื้นฐานที่ดีจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง การประกาศตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 2/2556 นี้คาดว่าน่าจะออกมาดี และนักลงทุนต่างประเทศที่เทขายสุทธิในเดือนมิถุนายนสูง ดังนั้นอาจจะมีแรงซื้อคืนกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย รวมทั้งอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรไทยยังอยู่ในอัตราที่สูง ด้วยปัจจัยดังกล่าว ทำให้ บลจ.วรรณยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยเมื่อพิจารณากรอบของดัชนีที่ 1,640 จุดปลายปี 2556
โดยช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเริ่มมีกระแสเงินไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (Big Cap) ทั้งนี้ นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและรอจังหวะการเข้าลงทุน โดยสามารถทยอยสะสมหุ้นเมื่อดัชนี SET INDEX ปรับลดลงต่ำกว่า 1,400 จุด
ทั้งนี้ สำหรับนักลงทุนที่อยากเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทย กองทุนเปิด วรรณเอเอ็มเซ็ท 50 (1AMSET50) สามารถตอบโจทย์การลงทุนในสถานการณ์ปัจจุบันด้วยนโยบายการลงทุน Active Management ของ 1AMSET50 ที่เน้นลงทุนในหุ้นสามัญประมาณ 25-30 บริษัทจดทะเบียนในดัชนี SET50 และมีโอกาสกระจายการลงทุนในหุ้นขนาดกลางที่อยู่ใน SET100 เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Enhance return) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชอบการลงทุนเน้นหุ้นขนาดใหญ่ และต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนี SET50
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินในระยะกลางถึงยาวเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาดหุ้นในปัจจุบัน กองทุนเปิด วรรณ อินคัม พรีเมียร์ ฟันด์ (ONE-PREMIER) ที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายเฉพาะในประเทศไทย ได้แก่ หุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ น้ำมัน และอนุพันธ์ โดยมีกลยุทธ์การบริหารแบบ Absolute Return เพื่อสร้างผลตอบแทนโดยไม่อิงกับเกณฑ์มาตรฐาน และไม่จำเป็นต้องถือครองสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งตลอดเวลา มีการทำ Asset Allocation และ Lock-in Profit เพื่อให้ได้เป้าหมายของผลตอบแทนที่กำหนด โดยผู้ลงทุนจะได้รับเงินในรูปแบบ Auto Redemption อย่างสม่ำเสมอในทุกไตรมาส
