xs
xsm
sm
md
lg

แม้หุ้นผวนเชื่อศก.ยังเดินหน้า กสิกรไทยชี้บจ.ทำกำไรคาดโต20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ. กสิกรไทย เผยแม้ตลาดหุุ้นผวน นักลงทุนต่างชาติเทขาย เชื่อเศรษฐกิจไทยยังเดินหน้า หลังบริษัทจดทะเบียนทำกำไรคาดโตเพิ่ม 20% ด้านทองคำระยะสั้น มองยังคงปรับตัวลดลงจากค่าเงินสหรัฐที่แข็งค่าขึ้น

นายอาทิตย์ ทองเจริญ ผู้บริหารงานจัดหาผลิตภัณฑ์พิเศษ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า หุ้นไทยนับตั้งแต่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยลงมาในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เพื่อแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่า ตลาดหุ้นไทยก็ได้รับแรงกดดันและ แรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งผนวกกับความกังวลในการยุติมาตรการ QE ของสหรัฐฯ ยิ่งส่งผลให้เกิดแรงเทขายเพิ่มเติม โดยนับตั้งแต่ต้นปี นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยออกมาแล้วกว่า 6 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยที่เคยปรับตัวขึ้นไปเหนือ 1,600 จุด กลับปรับลงมาอยู่ระดับใกล้เคียงกับต้นปี ที่ระดับต่ำกว่า 1,400 จุด

ทั้งนี้แม้ว่าจะปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก แต่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยเอง ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยยังคงสามารถเติบโต ได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน ก็ยังคงสามารถขยายตัวและคาดการณ์ว่าจะเติบโตได้กว่า 20% จึงไม่ได้มีการ เปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อตลาดหุ้นไทย แม้ว่าในระยะสั้นยังคงมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้อีกจากแรงเทขายของต่างชาติ แต่บลจ.กสิกรไทยเอง ก็ยังคงเป้าหมายปลายปีไว้เช่นเดิมที่ 1,570 จุด

ขณะที่ทองคำเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่มีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี โดยราคาทองคำล่าสุด ณ 24 มิถุนายน 2556 ได้หลุดลงมาต่ำกว่าระดับ 1,300 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์แล้ว ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการปรับลดมาตรการ QE ของสหรัฐฯ เนื่องจากมาตรการ QE ส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดเป็นจำนวนมาก จึงกดดันให้อัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรลงมาอยู่ในระดับต่ำ และส่งผลให้ผล ตอบแทนในสินทรัพย์อื่น รวมถึงทองคำมีความน่าสนใจกว่ากว่าตราสารหนี้ ในขณะที่ปริมาณเม็ดเงินที่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ก็กดดันค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ
ให้ อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลดีต่อราคาทองคำ จึงทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมา แต่เมื่อมีแนวโน้มว่าจะยุติมาตรการ QE ก็ทำให้นักลงทุนหันเข้ามาถือดอลล่าร์สหรัฐเพิ่มขึ้น และผลักดันดอลล่าร์สหรัฐให้แข็งค่ากลับมากดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงมาอย่าง แรง  นอกจากนี้ ปริมาณทองคำแท่งที่ถือโดยกองทุน SPDR Gold ก็ปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าระดับ 1,000 ตันเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี แสดงถึงความต้องการทองคำที่ปรับตัวลดลงของนักลงทุนทั่วโลก

สำหรับมุมมองของราคาทองคำในระยะสั้น ยังคงมองว่ามีโอกาสปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องจากค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐที่เริ่ม แข็งค่าขึ้น และแม้จะมีแรงซื้อกลับเข้าไปบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะเยอะพอจะทำให้ราคาปรับตัวขึ้นไปสูงมากนัก เนื่องจากปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปได้ คือการปรับตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกนั้น ยังคงมองไม่เห็นสัญญาณดังกล่าวอย่างชัดเจน โดยกรอบราคาทองคำในระยะ 1 ปีข้างหน้า น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,100- 1,400ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์
กำลังโหลดความคิดเห็น