ธนชาตยันหั่นธุรกิจประกันชีวิตทิ้งไม่กระทบลูกค้า ระบุการควบรวมของพรูเด็นเชียลกับธนชาตประกันชีวิตลูกค้าได้ประโยชน์เพิ่ม ส่วนลูกค้าเก่ายังได้รับความคุ้มครอง และผลประโยชน์ตามเดิม เผยใช้ชื่อธนชาตประกันชีวิตอีก 2 ปี ก่อนเปลี่ยนและคืนใบอนุญาตให้ คปภ. ล่าสุดเริ่มเดินหน้าขายของให้พรูเด็นเชียลแล้วตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้อนุมัติให้บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซื้อกิจการบริษัทธนชาตประกันชีวิต จำกัด ในวงเงิน 18,940 ล้านบาท และพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ได้ชำระค่าหุ้นครบ 100% เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคมเป็นต้นมาทางธนาคารจะทำการขายสินค้าประกันชีวิตของทางบริษัทพรูเด็นเชียลเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทธนชาตประกันประกันชีวิตจะยังคงใช้ชื่อเดิมไปอีกประมาณ 2 ปี และลูกค้าเดิมของธนชาตประกันชีวิตจะได้รับความคุ้มครองและผลประโยชน์ในอัตราเดิม โดยมีบริษัทพรูเด็นเชียลประกันชีวิตเป็นผู้ดูแลตามเงื่อนไข
“ณ ปัจจุบันธนาคารได้ทำการขายประกันของพรูเด็นเชียลผ่านสาขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้เวลา 2 ปีชื่อของธนชาตประกันชีวิตจะหายไป และต้องคืนใบอนุญาตให้กับ คปภ. ส่วนเม็ดเงินจากการขายธนชาตประกันชีวิตนั้น ธนาคารได้รับเงินมาแล้ว 17,500 ล้านบาทเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งความร่วมมือระยะเวลา 15 ปีเราก็จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมจากการขายประกันชีวิตอิงตามราคาตลาด”
นายแบร์รี่ สโตว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การซื้อกิจการธนชาตประกันชีวิต และความร่วมมือกับธนาคารธนชาตเป็นไปตามเป้าหมายสำคัญของพรูเด็นเชียลในประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเติบโตของธุรกิจในประเทศไทย และเชื่อว่าเมื่อทุกอย่างดำเนินการเสร็จก็จะทำให้ส่วนแบ่งการครองตลาดของพรูเด็นเชียลในประเทศไทยมากกว่า 4% เนื่องจากปัจจุบันส่วนแบ่งของทั้ง 2 บริษัทอยู่ในสัดส่วน 2% เท่ากัน
ด้านนายบินายัค คัตตา กรรมการผู้จัดการ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทจะยังคงดูแลลูกค้าเดิมตามข้อตกลง และผลประโยชน์ที่เคยทำไว้ และเชื่อว่าการควบรวมครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่ลูกค้ามากขึ้น โดยจะเป็นการเพิ่มความหลากหลายทางด้านสินค้าที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ
“เราพร้อมจะเสนอสินค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประกันกลุ่ม ประกันสินเชื่อ ประกันออมทรัพย์ โดยจะมีพนักงานของธนชาตที่ผ่านการฝึกอบรมจากบริษัทประจำอยู่ตามสาขาของธนาคาร”
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้อนุมัติให้บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซื้อกิจการบริษัทธนชาตประกันชีวิต จำกัด ในวงเงิน 18,940 ล้านบาท และพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ได้ชำระค่าหุ้นครบ 100% เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคมเป็นต้นมาทางธนาคารจะทำการขายสินค้าประกันชีวิตของทางบริษัทพรูเด็นเชียลเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทธนชาตประกันประกันชีวิตจะยังคงใช้ชื่อเดิมไปอีกประมาณ 2 ปี และลูกค้าเดิมของธนชาตประกันชีวิตจะได้รับความคุ้มครองและผลประโยชน์ในอัตราเดิม โดยมีบริษัทพรูเด็นเชียลประกันชีวิตเป็นผู้ดูแลตามเงื่อนไข
“ณ ปัจจุบันธนาคารได้ทำการขายประกันของพรูเด็นเชียลผ่านสาขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้เวลา 2 ปีชื่อของธนชาตประกันชีวิตจะหายไป และต้องคืนใบอนุญาตให้กับ คปภ. ส่วนเม็ดเงินจากการขายธนชาตประกันชีวิตนั้น ธนาคารได้รับเงินมาแล้ว 17,500 ล้านบาทเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งความร่วมมือระยะเวลา 15 ปีเราก็จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมจากการขายประกันชีวิตอิงตามราคาตลาด”
นายแบร์รี่ สโตว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การซื้อกิจการธนชาตประกันชีวิต และความร่วมมือกับธนาคารธนชาตเป็นไปตามเป้าหมายสำคัญของพรูเด็นเชียลในประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเติบโตของธุรกิจในประเทศไทย และเชื่อว่าเมื่อทุกอย่างดำเนินการเสร็จก็จะทำให้ส่วนแบ่งการครองตลาดของพรูเด็นเชียลในประเทศไทยมากกว่า 4% เนื่องจากปัจจุบันส่วนแบ่งของทั้ง 2 บริษัทอยู่ในสัดส่วน 2% เท่ากัน
ด้านนายบินายัค คัตตา กรรมการผู้จัดการ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทจะยังคงดูแลลูกค้าเดิมตามข้อตกลง และผลประโยชน์ที่เคยทำไว้ และเชื่อว่าการควบรวมครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่ลูกค้ามากขึ้น โดยจะเป็นการเพิ่มความหลากหลายทางด้านสินค้าที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ
“เราพร้อมจะเสนอสินค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประกันกลุ่ม ประกันสินเชื่อ ประกันออมทรัพย์ โดยจะมีพนักงานของธนชาตที่ผ่านการฝึกอบรมจากบริษัทประจำอยู่ตามสาขาของธนาคาร”