xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.ชี้จับตาแก้ปัญหาเงินบาท แนะลงทุนระยะสั้นรอความชัดเจน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


2บลจ แอสเซทพลัส และกรุงไทย แนะนักลงทุนติดตามมาตรการค่าเงินบาท ลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นรอความชัดเจน

นางสาวฤดี ปติอารยกุล ผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ผลตอบแทนตลาดตราสารหนี้ไทยปรับตัวลดลงเนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อยับยั้งการแข็งค่าของเงินบาท

อย่างไรก็ตามระยะนี้ ตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างผันผวน เนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับมาตรการต่างๆที่อาจออกมาเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินบาท โดยการประชุมของ กนง. จะมีขึ้นในวันที่ 29 พ.ค. นี้ ตลาดยังคงรอความชัดเจนจากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยนักลงทุนอาจมีการขายทำกำไรระหว่างทาง ซึ่งอาจทำให้อัตราผลตอบแทนปรับขึ้นบ้าง การลงทุนในตลาดตราสารหนี้ช่วงนี้อาจนำเงินลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศระยะสั้น เพื่อรอความชัดเจนของมาตรการต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลผันผวนน้อยลง

โดยในวันที่ 9 พฤษภาคม นี้ บริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 9 (ASP-ACFIXED 9) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทย ที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในประเทศ และรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากรอบการลงทุนนี้ กองทุนจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน เงินฝาก และตั๋วแลกเงิน อายุประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 2.90% ต่อปี

นอกจากนี้ในวันที่ 14 พฤษภาคม บริษัทฯ จะRollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสพรีเมี่ยมปันผล (ASP-PDI) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทยที่สามารถลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศได้ไม่เกิน 79% โดยเปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลาและมีนโยบายจ่ายปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ซึ่งรอบนี้กองทุนจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ไทย เงินฝากต่างประเทศและตั๋วแลกเงินในประเทศ อายุประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 2.95% ต่อปี* ทั้งนี้ บริษัทฯได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงด้านด้านตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนในส่วนการลงทุนในต่างประเทศ

ทางด้าน นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ระยะสั้นในช่วงนี้ มีประเด็นเรื่องแรงกดดันจากฝ่ายรัฐบาลต่อธนาคารแห่งประเทศไทยให้ออกมาตรการจัดการค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทั้งนี้หลายฝ่ายได้คาดการณ์ว่าอาจจะมีการใช้มาตรการควบคุมการไหลเข้าออกของเงินทุน รวมไปถึงการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย จึงส่งผลทางจิตวิทยาต่อกระแสการเงินทุนไหลเข้าให้ลดลง อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันยังไม่มีมาตรการใดๆออกมาจากธปท.

โดยสัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่าย2 กองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 81 (KTSUPB81) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ - 14 พฤษภาคม 2556 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประกอบด้วย เงินฝากประจำ Bank of China , เงินฝากประจำ CCB Asia , MTN ออกโดย ICBC Asia และ Banco BTG Pactual S.A ในสัดส่วน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน / บริษัทเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.85%ต่อปี

นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ (Roll Over) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 3 เดือน 2 (KTSIV3M2) เสนอขายถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2556 อายุ 3 เดือน เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในเงินฝาก / บัตรเงินฝาก ตั๋วแลกเงินของธนาคารออมสิน ธนาคารทิสโก้ และธนาคารไอซีบีซีที ในสัดส่วน44%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 11% และตั๋วแลกเงินของภาคเอกชน 45% ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.65%ต่อปี


กำลังโหลดความคิดเห็น