กลุ่มบริษัทเอไอเอ เผยผลประกอบการธุรกิจใหม่ หรือ VONB ประจำไตรมาสแรกปี 2556 ปิดที่ 291 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 คิดเป็น 745 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) คิดเป็นร้อยละ 38.4% และเบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 คิดเป็น 4,177 ล้านเหรียญสหรัฐ
มร.มาร์ค ทักเกอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า ตลาดหุ้นที่สำคัญๆ ยังคงมีภาพรวมเป็นบวกในไตรมาสแรก เป็นผลมาจากการสนับสนุนสภาพคล่องจากธนาคารกลางและสัญญาณการปรับตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีสัญญาณเริ่มต้นของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วก็ตาม แต่ยังคงไม่มีสัญญาณเช่นเดียวกันนี้ในประเทศตะวันตกอื่นๆ โดยเฉพาะในยุโรปที่ยังไม่มีทีท่าการฟื้นตัวแต่ประการใด ความแตกต่างที่เห็นอย่างเด่นชัดระหว่างเศรษฐกิจในเอเชียและภูมิภาคตะวันตกยังคงปรากฏให้เห็นอยู่และมุมมองของเศรษฐกิจโลกยังคงมีอัตราการเติบโตต่ำและมีความไม่แน่นอนในปี 2556 นี้
สำหรับเศรษฐกิจเอเชียยังเอื้อต่อการเติบโตของกลุ่มบริษัทเอไอเอมากกว่าตลาดอื่นๆ ของโลก ส่งผลให้ธุรกิจประกันชีวิตยังคงมีความแข็งแกร่ง สัญญาณการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น รายได้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น การมีประกันสังคมที่ไม่เพียงพอ และระดับการประกันภัยที่ต่ำ สิ่งเหล่านี้เป็นโอกาสให้มีการขยายผลกำไรในภูมิภาคนี้ ธุรกิจของเรามีความแข็งแกร่งจากแรงสนับสนุนจากปัจจัยที่เอื้อต่อการเติบโตเหล่านี้ อีกทั้งความเป็นเอกลักษณ์ของเอไอเอในการเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีเครือข่ายทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ก็ช่วยให้เราเก็บเกี่ยวโอกาสเหล่านี้ได้
"กลุ่มบริษัทเอไอเอยังคงให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้ และเราเชื่อมั่นกับโอกาสการเติบโตทางธุรกิจของกลุ่ม ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของกลุ่มบริษัทเอไอเอแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การดำเนินงานที่เด่นชัดในการสร้างอัตราการเติบโตของธุรกิจใหม่ที่มีคุณภาพและความสามารถของเราในการมอบผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น"
มร.มาร์ค กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกว่า กลยุทธ์การดำเนินงานของเราเน้นการสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นและมอบผลตอบแทนให้กับผู้เอาประกันภัย ผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นมาจากการผสานยอดขายและผลกำไรของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม เพื่อสร้างอัตราการเติบโตแบบยั่งยืนในมูลค่าธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการชี้วัดผลงานของกลุ่มบริษัทเอไอเอ ส่งผลให้มูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตขึ้นร้อยละ 25 คิดเป็น 291 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับไตรมาสแรกปี 2555
โดยมูลค่าธุรกิจใหม่ในตลาดแต่ละแห่งมีอัตราเป็นบวกเป็นผลจากผลงานการดำเนินงานปีที่ผ่านมา สำหรับผลงานเด่นในรอบไตรมาสนี้รวมถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศฮ่องกง ความสามารถที่แข็งแกร่งขึ้นในการดำเนินงานของฝ่ายตัวแทนประกันชีวิตในประเทศเกาหลี ซึ่งเรายังคงปรับการวางตำแหน่งธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงอัตราการเติบโตที่ยอดเยี่ยมในตลาดอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ การดำเนินงานของสาขาในประเทศมาเลเซียได้รับแรงหนุนจากงบการเงินรวมในการเข้าถือครองธุรกิจไอเอ็นจีที่แล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนธันวาคม
ทั้งนี้อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทเอไอเอคิดเป็นร้อยละ 38.4 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่เทียบกับไตรมาสแรกปี 2555 เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงที่ผสมผสานกันจากปริมาณการเติบโตในการดำเนินงานในประเทศเกาหลีและตลาดอื่นๆ ตลอดจนถึงงบการเงินรวมจากการเข้าถือครองธุรกิจใหม่ในไอเอ็นจีมาเลเซีย ตามที่ได้ประกาศไว้ในผลการดำเนินงานปี 2555 ในเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมมีการประมาณการว่าอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทยจะปรับเป็นร้อยละ 30 สำหรับการประเมินตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป
สำหรับเบี้ยประกันภัยรับปีแรกมีอัตราการเติบโตแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 เป็น 745 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับไตรมาสเดียวกันปี 2555 ผลการดำเนินงานที่เยี่ยมยอดมาจากการทำงานของตัวแทนประกันชีวิตรวมกับกลยุทธ์การดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่สร้างผลกำไร ตัวแทนประกันชีวิตนับเป็นช่องทางแรกของเราและเป็นช่องทางหลักที่สร้างโอกาสการแข่งขันให้กับกลุ่มบริษัทเอไอเอ ในไตรมาสแรกปี 2556 กลุ่มบริษัทเอไอเอมีการพัฒนาทั้งผลงานและกิจกรรมของตัวแทนประกันขีวิตซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์ตัวแทนระดับพรีเมียร์ (Premier Agency) พันธมิตรทางธุรกิจที่สร้างผลกำไรให้กับเรายังคงดำเนินธุรกิจไปได้ด้วยดีด้วยอัตราการเติบโตที่ยอดเยี่ยมในมูลค่าธุรกิจใหม่ต่อจากผลการดำเนินงานที่มีความแข็งแกร่งในปี 2555นอกจากนั้น เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เป็น 4,177 ล้านเหรียญสหรัฐ
มร.มาร์ค กล่าวต่อว่า กลุ่มบริษัทเอไอเอเริ่มต้นการดำเนินงานในปี 2556 ด้วยทิศทางที่สดใสซึ่งเกิดจากผลการดำเนินการที่เยี่ยมยอดในปี 2555 ธุรกิจใหม่ในไตรมาสแรกมีอัตราการเติบโตถึง 25% เป็นครั้งแรกที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในไตรมาสแรกแสดงถึงการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จจากกลยุทธ์การสร้างการเติบโตและแรงผลักดันต่างๆ