ยูโอบีชี้ ศก.โลกยังเติบโตแบบช้าๆ สหรัฐฯ การว่างงานลดลง ขณะที่ยุโรปยังแย่ ชี้เงินยังไหลเข้าหนุนเอเชียน่าลงทุน แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุน คาดดัชนีหุ้นไทยปีนี้แตะ 1,650 จุด
นายกรวุฒิ ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังคงมีการเติบโตแบบช้าๆ นักวิเคราะห์คาดว่าจะโตที่ระดับ 3.1% ซึ่งเป็นการเติบโตที่มาจากภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก โดยที่สหรัฐฯ มีตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดออกมาค่อนข้างดี มีอัตราการว่างงานที่ลดลงเหลือ 7.7% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่ความต้องการกู้สินเชื่อบ้านเพิ่มขึ้น จึงคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตที่ระดับ 2.8% ในปีนี้ และคาดว่ามาตรการ QE จะดำเนินต่อไป
ส่วนเศรษฐกิจจีนในปีนี้คาดว่าจีดีพีจะอยู่ที่ระดับ 8% แต่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมามีทั้งที่ดีและไม่ดี สภาพคล่องทางการเงินในประเทศยังสูง โดยเงินเฟ้อยังไม่มีปัญหาในขณะนี้ แต่ในช่วงปลายปีเงินเฟ้ออาจมีการเพิ่มขึ้นและอาจต้องมีการใช้นโยบายดอกเบี้ย
ด้านญี่ปุ่น เศรษฐกิจฝืดตัวมาหลายปี ทั้งนี้ธนาคารกลางของประเทศต้องการใช้นโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศซึ่งคาดว่าจะเติบโตได้ในอนาคต ขณะที่อัตราเงินเฟ้อก็น่าจะปรับตัวขึ้นตามไปด้วย
ขณะที่ยุโรป เศรษฐกิจยังถดถอย ปัญหาต่างๆ ยังไม่จบ เศรษฐกิจในหลายประเทศยังอ่อนแอ และมีการว่างงานสูง ซึ่งยังต้องใช้นโยบายการปรับโครงสร้างหนี้ และมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก คาดว่าจีดีพีในปีนี้จะติดลบที่ -0.5% แต่ในบางประเทศยังเติบโตได้ เช่น เยอรมนี คาดว่าจะโต 0.8%
“เชื่อว่าเงินลงทุนจากต่างประเทศยังไหลเข้าในเอเชียและไทยอยู่เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ขณะที่บริษัทในเอเชียจะเติบโตได้ประมาณ 20% ส่วนราคาหุ้นถือว่าไม่ถูกไม่แพง” นายกรวุฒิกล่าว
นายกรวุฒิยังแนะนำด้วยว่า นักลงทุนควรเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทหุ้นประมาณ 80% ของพอร์ตลงทุนทั้งหมดเพราะหุ้นยังไปต่อได้ โดยในสัดส่วน 70% ของพอร์ตหุ้นนั้นควรลงทุนหุ้นในประเทศ และอีก 30% เลือกลงทุนหุ้นต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ และอาเซียน ส่วนอีก 20% ของพอร์ตให้แบ่งลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ หรือการลงทุนทางเลือกอื่นๆ และถือเงินสดให้ส่วนหนึ่ง โดยทาง บลจ.ยูโอบีมองว่าในปีนี้ดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ที่ระดับ 1,650 จุด
