หอการค้าไทยคาดที่ประชุม กนง. วันพุธนี้มีมติคง ดบ. นโยบายที่ 2.75% เพราะเงินเฟ้อยังติดลบ ชี้ ศก.โตส่งผลให้บาทแข็ง พร้อมเชื่อมือ ธปท. ดูแลได้ ส่วนปัญหาส่งออกชะลอตัวเป็นผลจาก ศก.โลกฟื้นตัวช้า ฝากแนะรัฐบาลช่วยเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อํานวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ โดยมองว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.75 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงหากเปรียบเทียบกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ที่ร้อยละ 3 ยังคงถือว่าติดลบ
พร้อมกันนี้ นายธนวรรธน์ ยังมองว่า ในขณะนี้ยังไม่มีแรงจูงใจที่จะทำให้ทาง ธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เนื่องจากค่าเงินที่อยู่ในระดับ 29.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ พร้อมมองว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมีแนวโน้มมาจากเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลยังทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นมากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่หาก ธปท. มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจริง ก็เชื่อว่าจะปรับลดลงอยู่ที่ในกรอบร้อยละ 0.25
ขณะที่การส่งออกของไทยในขณะนี้ยังคงชะลอตัว เชื่อว่ามีสาเหตุจากเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ประกอบกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องมีการออกมาตรการดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเกินกรอบ 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากหากมีการแข็งค่าไปมากกว่านี้ อาจมีผลกระทบต่อการกำหนดราคาของผู้ส่งออกในระยะสั้น ซึ่งอาจประสบกับสภาวะขาดทุนได้
นอกจากนี้ ภาคเอกชนของไทยยังฝากกวิงวอนให้ภาครัฐมีการดูแลผู้ประกอบการที่ส่งออกที่ได้รับผลกระทบ โดยออกมาตรการช่วยเหลือ ทั้งในส่วนการเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย (SME) ด้วย
