บมจ.ไทยศรีประกันภัย เผยแผนปีนี้ตั้งเป้าโตเพิ่ม 26,000 ล้านบาทหรือ 17% เน้นกลยุทธ์จับกลุ่มนิชมาร์เกต เช่น ซูเปอร์คาร์ ซูเปอร์ไบค์เตรียมปรับเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก 20% ล่าสุดเตรียมเจาะกลุ่มผู้เล่นเจ็ตสกีเอาใจนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นายนที พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตอยู่ที่ 17% หรือประมาณ 26,000 ล้านบาท จาก 2,350 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นประเภทมอเตอร์ 60% และนอนมอเตอร์ 40% โดยกลยุทธ์ในปีนี้บริษัทได้นำประกันที่เกี่ยวกับเจ็ตสกีเข้ามาเพราะป็นที่นิยม โดยเริ่มทำการตลาดแล้วเมื่อช่วงปี 2555 ที่ผ่านมา โดยคุ้มครองทั้งตัวเรือ และอุบัติเหตุตัวบุคคลในการขับขี่
“เจ็ตสกีนั้นจากสถิติที่เราได้รับว่ามีการชนมีน้อยมาก โดยเราประเมินไว้ไม่เกิน 50% ซึ่งสถิติของทางเจ็ตสกีเองได้ประเมินไว้ประมาณ 40% ซึ่งเราจะไปเจาะกลุ่มลูกค้าตามชายหาดที่มีคนเล่นเยอะๆ เช่น พัทยา ระยอง สมุย ภูเก็ต เป็นต้น ซึ่งเบี้ยยังไม่คิดว่ามาก เพราะเราเพิ่งเริ่มทำตลาด และยังมองว่ายังมีช่องว่างในการทำการตลาด ซึ่งเราถือว่าเป็นรายแรกๆ ที่ทำความคุ้มครองประเภทนี้”
นายนที กล่าวต่อไปว่า หลักที่เข้ามาทำประกันเจ็ตสกี เนื่องจากว่ามีชาวต่างชาติสนใจเข้ามาเล่น แต่มีปัญหาเรื่องไม่มีประกัน และจากผลสำรวจเบื้องต้นเรือมีอยู่ประมาณ 600 ลำ ที่อยู่ที่พัทยา ระยอง และอีกประมาณ 100 ลำ ที่เกาะล้าน และยังมีอีกมากในที่สมุย และภูเก็ตที่ในอนาคตบริษัทจะเข้าไปทำการตลาดอีก โดยปัจจุบันมีประกันประเภทนี้มีอู่ให้บริการ 4 อู่ และมี 3 บริษัท ที่ทำประกันประเภทนี้ นอกจากของบริษัทเราได้แก่ บริษัท วิริยะ จำกัด และบริษัท ศรีอยุธยา จำกัด ด้วย แต่ขณะนี้บริษัทเรายังถึงว่าเป็นผู้นำอยู่ โดยทุนประกันไม่เกิน 500,000 บาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการพัฒนาในตัวมอเตอร์ อีซีไรเดอร์ หรือซูเปอร์ไบค์ เช่น รถฮาร์เลย์ เดวิดสัน บีเอ็มดับเบิลยู เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีรถอยู่ประมาณ 4,000 คัน เบี้ยประกันอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อปี ซึ่ง lost ratio จะสูงมาก ในอนาคตจะมีการปรับเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก 20% ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะออกประกันประเภทนี้อีก 1 ตัว เป็นประเภทเบ็ดเตล็ด โดยจะขยายความคุ้มครองมากขึ้นจาก 65 ปี เป็น 70-80 ปี
“กลยุทธ์นวัตกรรม บริษัทฯ ได้พัฒนามาเรื่อยๆ เนื่องจากบริษัทไทยเป็นตลาดรองรับ AEC และเป็นโลกที่ไร้พรหมแดน ซึ่งเราได้คิดค้นสิ่งใหม่ๆ เข้ามารองรับอีก 3-4 ด้านเรามี 25 สาขา ทั้วประเทศ มีลูกค้าอยู่ประมาณ 24,000 กรมธรรม์ โดยเราจะดูว่าตลาดต้องการอะไร และนำความต้องการของลูกค้ามาคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า”
ส่วนผลประกอบการปี 2555 เบี้ยรวมอยู่ที่ 2,350 ล้านบาท หรือโต 24% โดยแยกออกเป็นมอเตอร์ 60% และนอนมอเตอร์ 40% ซึ่งในอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้าจะปรับมาอยู่ที่ 50-50% นอกจากนี้รถที่มีกำลัง 3,000 ซีซี เบี้ยสูงขึ้นเนื่องจากมีการเติบโตอย่างรวดเร็วมาก โดยรถหรูปรับเพิ่มขึ้นมาไม่ถึง 10% ขณะที่กลุ่มรถสปอร์ตมีความเสี่ยงสูง ได้มีการปรับเพิ่มอีก 10% จาก 50%
โดยรถหรูส่วนใหญ่มาจากรถนำเข้า และรถอิสระ โดยเราจะเน้นรถประเภทลิมูซีน จากัวร์ เป็นต้น ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำกว่า 50% ขณะที่รถสปอร์ตจะมีความเร็วที่สูงกว่า โดยรถสปอร์ตมีแผนที่จะปรับเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงการพัฒนาพนักงานด้านการสำรวจ และการปรับออปชันให้มากขึ้น
“สรุปปี 2555 รอสเรโชมีอยู่ประมาณ 54% ซึ่งรวมหมดแล้ว หรือคิดเป็นกำไร 100 ล้านบาท ซึ่งกำไรรับประกันไม่เยอะ แต่กำไรจากการลงทุนจะมากกว่า 70%”
ส่วนกรณีปัญหาน้ำท่วมยังมีบริษัทไทยรี ที่ยังค้างอยู่ประมาณ 20% ที่ยังไม่ได้จ่ายน้ำท่วม จาก 400 ล้านบาท ขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะจ่ายได้หมดในปีนี้ แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีปัญหาเรื่องตัวโรงงานที่ทางอินชัวเรอร์บางรายต้องการให้ทำการประเมินใหม่ เพราะบางอย่างคาดว่าสามารถซ่อมได้ ซึงจะทำให้ค่าสินไหมปรับลดลงด้วย โดยรวมแล้ว BI เริ่มประเมินค่าสินไหมน่ำท่วมไว้ที่ 14,000 ล้านบาท แต่จ่ายจริงอยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท