บลจ.กสิกรไทย เผยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังขยายตัวต่อเนื่อง แนะเล็งจังหวะทยอยสะสมเดือนนี้ ล่าสุดจ่ายปันผล “กองทุน K-USA” มูลค่าร่วม 14 ล้านบาท ด้านกองหุ้นไม่น้อยหน้าจ่ายปันผลรวดเดียว 3 กองทุน รวมมูลค่า 266 ล้านบาท
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด มองว่า การลงทุนและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังคงออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แม้ว่าไตรมาส 4 ที่ผ่านมา GDP สหรัฐฯ จะออกมาติดลบเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี จากเหตุพายุ Sandy พัดถล่มสหรัฐฯ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2555 รวมถึงการชะลอการใช้จ่ายของรัฐบาลก่อนที่จะมีการเจรจาตกลงกันในเรื่องการแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff ได้ ซึ่ง บลจ.กสิกรไทยมองว่าเหล่านี้เป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้น คาดว่าการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำจะยังคงผลักดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความน่าสนใจในฐานะทางเลือกเพื่อการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีได้ และแม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับตัวขึ้นค่อนข้างมากแล้ว แต่ระดับราคาปัจจุบันยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว โดย P/E ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 13 เท่า ซึ่งหากเทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ระดับ 14.2 เท่า
ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนต่างๆ ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ เชื่อว่าดัชนีจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกเช่นกัน สำหรับปัจจัยระยะสั้นที่อาจต้องจับตามอง คือ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้อาจมีข่าวเกี่ยวกับการเจรจาปรับลดรายจ่ายภาครัฐและเพดานหนี้ ซึ่งอาจจะกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงสั้น จึงถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้พอสมควรหรือต้องการกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในต่างประเทศ ที่จะทยอยสะสมเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในอนาคต
ล่าสุดบริษัทเตรียมจะจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน (K-USA) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2555 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2556 ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนของวันที่ 31 มกราคม 2556 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย มูลค่าการจ่ายปันผลทั้งสิ้นร่วม 14 ล้านบาท โดยมีกำหนดจ่ายปันผลดังกล่าวในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556
นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้นอีก 3 กองทุน รวมมูลค่าการจ่ายเงินปันผลประมาณ 266 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค หุ้นปันผล (K-VALUE) ซึ่งจะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2556 ให้ในอัตรา 0.33 บาทต่อหน่วย จำนวนประมาณ 150 ล้านบาท กองทุนเปิดรวงข้าว 2 (RKF2) และกองทุนเปิดรวงข้าว 4 (RKF4) จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2555 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2556 ในอัตรา 0.80 บาทต่อหน่วย จำนวนกว่า 81 ล้านบาทบาท และอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย จำนวนประมาณ 35 ล้านบาทตามลำดับ
โดยทั้ง 3 กองทุนข้างต้นจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนเวลา 08.00 น.ของวันที่ 31 มกราคม 2556 โดยมีกำหนดการจ่ายเงินปันผลพร้อมกันกับกองทุน K-USA ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้