xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯปันผล3กองทุน มูลค่ารวมกว่า200ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กสิกรไทยปันผลรับปีใหม่ 3 กองทุนรวมกว่า 267 ล้านบาท "กองทุนเปิดเคหุ้นทุน"นำโด่งปันผล 1.05 บาทต่อหน่วย นักลงทุนรอรับเงินพร้อมกัน 14 มกราคมนี้ ระบุหุ้นไทย-เอเชียปีนี้รับอานิสงส์เงินไหลเข้าต่อ แต่ต้องจับตาแรงขายทำกำไร และปัญหาสรัฐที่ยังไม่จบ

นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายปันผลกองทุนหุ้นและ LTF รวม 3 กองทุนในวันที่ 14 มกราคม 2556 มูลค่ารวม267.84 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค หุ้นทุน (K-EQUITY)ในอัตรา 1.05 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล (RKF-HI)ในอัตรา 0.44 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค สตราทีจิค ดีเฟ็นซีฟหุ้นระยะยาวปันผล (KSDLTF)ในอัตรา 0.13 บาทต่อหน่วย

“ผลการดำเนินงานของทั้ง 3 กองทุนที่มีการจ่ายปันผลในครั้งนี้ นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ โดยกองทุน K-EQUITY กองทุน RKF-HI และกองทุน KSDLTF ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในรอบปีที่ผ่านมาที่ 12.12% 12.02% และ 3.22% ตามลำดับ ขณะที่้ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศในปี 2555 อยู่ที่ 2.98% เท่านั้น”นายประเสริฐกล่าว
 
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มการลงทุนในหุ้นปีนี้บริษัทเชื่อว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มต้นปีค่อนข้างสดใส เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นหลังจากสหรัฐฯสามารถผ่านข้อตกลงขั้นต้นเกี่ยวกับปัญหาหน้าผาการคลัง (Fiscal Cliff) ส่วนตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทยยังคงมีทิศทางเป็นบวก โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธนาคารกลางทั่วโลกที่ล้วนมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง

“สำหรับตลาดหุ้นไทยในปีนี้ เชื่อว่าแนวโน้มยังคงเป็นบวก โดยได้รับปัจจัยบวกจากการบริโภคในประเทศที่ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และยิ่งเมื่อได้รับแรงส่งจากการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ทำให้ฐานภาษีของผู้มีรายได้ส่วนใหญ่ลดลง 2- 5% รวมถึงการลงทุนของภาครัฐและการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ"นายประเสริฐกล่าว

อย่างไรก็๖าม ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญแรงขายทำกำไรบ้างหลังจากราคาได้ปรับขึ้นไปมาก แต่จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าในปีนี้จะสามารถเติบโตได้กว่า 15% ก็เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยภายนอกยังคงต้องจับตาการเลื่อนการพิจารณาการตัดลดงบประมาณของสหรัฐฯ ออกไปอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดเกิดความกังวลและมีโอกาสปรับฐานลงมาได้ในช่วงดังกล่าว แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วก็จะสามารถตกลงกันได้ เช่นเดียวกันกับมาตรการการปรับขึ้นภาษีของผู้มีรายได้ปานกลางในสหรัฐฯ ที่สามารถหาข้อยุติได้ในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น