xs
xsm
sm
md
lg

ไทยประกันพร้อมรับ AEC-MTL จ่อลงทุนหุ้นเป็น 12%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไทยประกันชีวิตลั่นพร้อมรับ AEC หลังเดินหน้าขยายธุรกิจและสาขารองรับตั้งแต่ปี 2540 ด้านเมืองไทยประกันชีวิตเล็งปรับพอร์ตเพิ่มลงทุนหุ้นเป็น 12% เชื่อเพิ่มยิลด์ได้มากขึ้น

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ว่า ไทยประกันชีวิตเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการแข่งขันเสรีมาตั้งแต่ปี 2540 หรือช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งในช่วงดังกล่าวบริษัทฯ ได้ปรับปรุงกระบวนการดำเนินธุรกิจในทุกด้านเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ เพื่อกระจายการทำงานสู่สาขาทั่วประเทศได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาในหลายระดับและมีศูนย์บริการลูกค้า หรือ CSC รวม 300 แห่ง รวมถึงกระจายอำนาจในการอนุมัติสินไหม การรับประกัน การจ่ายเงินคืน เงินปันผลแก่ผู้เอาประกันไปยังสาขาเพื่อให้ผู้เอาประกันได้รับความสะดวก รวดเร็ว

“การปรับประสิทธิภาพการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลรวมถึงสาขาที่อยู่ในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี สงขลา หรือสุราษฎร์ธานี ฯลฯ จะเห็นได้ว่าสาขาเหล่านี้มีความพร้อมในการรองรับลูกค้าต่างชาติภายหลังการเปิด AEC อยู่แล้ว ทั้งด้านการพิจารณารับประกัน การจ่ายสินไหม การบริการ ส่วนการขยายการลงทุนไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ และความเหมาะสม” นายไชยกล่าว

ด้านนางภคินีนาถ ติยะชาติ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมานโยบายการลงทุนของบริษัทมีความยืดหยุ่นเสมอมา แต่จะเน้นการลงทุนให้สอดคล้องกับกรมธรรม์ที่ทางบริษัทเปิดขาย โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีเม็ดเงินลงทุนทั้งหมด 1.25 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 94-95% ของสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 1.5 แสนล้านบาท และผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 5% ในปี 2555

สำหรับสัดส่วนการลงทุนของบริษัทจะประกอบด้วย การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลถึง 50% ตลาดทุน 10% อีก 40% เป็นหุ้นกู้และปล่อยกู้ตามกรมธรรม์ ส่วนในปีนี้บริษัทอาจมีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 12% เพื่อเพิ่มโอกาสในการหาผลตอบแทนการลงทุนที่สูงขึ้น

ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศ หรือประเภทอื่นๆ ยังไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินผันผวน เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มั่นคง เพราะปีหน้าจะเป็นปีแห่งการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนด้วย ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน

“ปีนี้จะมีการปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อรองรับการออกกรมธรรม์ที่มีคุณภาพ ไม่มีความเสี่ยงสูง และหลักเกณฑ์ใหม่ จึงคาดหวังผลตอบแทนการลงทุนปีนี้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า5% และรวมกับเป้าหมายขยายตัวของเบี้ยประกันรับ คาดว่าจะทำให้ปีนี้สินทรัพย์ขยายตัว20% จากปีก่อน”


กำลังโหลดความคิดเห็น