xs
xsm
sm
md
lg

กบข.เผยสินทรัพย์เติบโต 10% ชูกลยุทธ์เน้นยิลด์ชนะเงินเฟ้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กบข.เผยกลยุทธ์เติบโตสร้างยิลด์ชนะเงินเฟ้อระยะยาว เน้นหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ เผยปีที่ผ่านมาสินทรัพย์เติบโต 10% คาดชู ยุทธศาสตร์ 4 ด้านรับความผันผวนของตลาดโลก

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในปี 2555 ที่ผ่านมากองทุนมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการอยู่ที่ 577,117 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% และให้ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 7% ชนะอัตราเงินเฟ้อ 4% โดยอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันอยู่ที่ 3%

ทั้งนี้ แผนงานของ กบข.ในปี 2556 จะดำเนินการเหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแผนงานในกรอบ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2554 โดยเน้นสร้างสินทรัพย์ให้เติบโตและสร้างผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อในระยะยาว โดยพอร์ตการลงทุนได้ให้น้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ ประเภทหุ้นในสัดส่วน 12% โดยเน้นหุ้นต่างประเทศมากกว่าในประเทศ จากเดิมอยู่ที่ 7% เพิ่มน้ำหนักในสินทรัพย์ที่มีการเติบโตไปตามภาวะเศรษฐกิจอย่างสินค้าโภคภัณฑ์ 24% จากเดิมอยู่ที่ 21% และกลุ่มที่มีการกระจายความเสี่ยงจาก 20% เหลือ 10% และกลุ่มตราสารหนี้ลดลงเหลือ 44% จาก 54%

“ในปี 2556 จึงวางยุทธศาสตร์ 4 ด้านเพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดโลก เพื่อสร้างผลตอบแทนของเงินออมเพื่อวัยเกษียญอย่างยั่งยืนแก่สมาชิก ทั้งในด้านสมาชิก ที่เน้นสร้างความพึงพอใจกับสมาชิกทุกช่วงวัย ด้านการลงทุน ดำเนินการภายใต้แผนจัดสรรการลงทุนระยะยาวใหม่ที่จัดกลุ่มสินทรัพย์ตามบทบาท ด้านองค์กร เดินหน้าเป็นผู้นำด้านการลงทุนอย่างรับผิดชอบ และด้านบุคลากร มีแผนพัฒนาภาวะผู้นำและทักษะของบุคลากรในระดับยั่งยืน” นางสาวโสภาวดีกล่าว

นายยิ่งยง นิลเสนา รองเลขาธิการกลุ่มงานบริหารเงินลงทุน กบข. กล่าวว่า ภาพของเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2556 มองว่าตลาดหุ้นโลกและประเทศเกิดใหม่มีการปรับตัวขึ้น เช่นเดียวกับหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในปีนี้แต่ไม่มากเท่าในปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์ที่เริ่มดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่เติบโต ขณะที่ตราสารหนี้ยังให้ผลตอบแทนที่ต่ำ ซึ่งแม้ว่าขณะนี้ราคาหุ้นยังสูงแต่เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นแล้ว หุ้นยังให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดี มองว่าบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ในระดับ 15-20% ในปีนี้ ดัชนีหุ้นคาดว่าสามารถวิ่งไปได้ถึงระดับ 1,500 จุด โดยมีกลุ่มที่น่าสนใจ ได้แก่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มอุปโภค บริโภค ที่ได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

ส่วนอัตราดอกเบี้ยเชื่อว่าจะยังอยู่นิ่งต่อไปอีก 1-2 ปีเพราะเศรษฐกิจโลกยังต้องการการกระตุ้นอยู่ ขณะเดียวกัน ภูมิภาคเอเชียที่มีการเติบโต และมีเงินทุนไหลเข้ามา ส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น ทาง กบข.ก็ได้ทำการป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศไว้แล้วเช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น