มิตรแท้ประกันภัย เชื่อปีนี้ธุรกิจประกันรุ่ง ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมโต 10% หรือประมาณ 2,700 ล้านบาท ระบุยอดขายรถยนต์ใหม่ยังเป็นปัจจัยบวกหลักหนุนธุรกิจต่ออีก พร้อมเล็งขยายตัวแทนอีก 2,500 คน พร้อมพัฒนาศักยภาพเพิ่ม ด้านศูนย์วิจัยกสิกรเชื่อเบี้ยรับรวมประกันวินาศภัยปี 56 แตะระดับ 2 แสนล้านบาท
นายอรัญ ศรีว่องไทย กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทมิตรแท้ประกันภัย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจประกันภัยในปีที่ผ่านมาได้รับอานิสงส์จากนโยบายรถคันแรกที่ออกสู่ตลาดหลายแสนคัน ส่งผลให้อัตรการเติบโตของธุรกิจประกันภัยอยู่ที่ประมาณ 20% ส่วนในปีนี่คาดว่าธุรกิจประกันภัยจะยังคงเติบโตในระดับเดียวกัน เนื่องจากเชื่อว่าตลาดรถยนต์ของไทยน่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้คนไทยยังหันมาให้ความสนใจการทำประกันมากขึ้น หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2554
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทเชื่อว่าในปีนี้บริษัทน่าจะมีเบี้ยรับรวมเติบโตได้ถึง 10% หรืออยู่ที่ประมาณ 2,700 ล้านบาท จากเดิมในปีที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ยรับรวมประมาณ 2,500 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 15%
"ในปีนี้เราคงจะทำตลาดรถยนต์ได้ดีขึ้นเพราะรถคันแรกจะกลายเป็นรถปีที่ 2 ซึ่งจะตรงกับลูกค้าของบริษัท แต่ไม่ใช่ว่าแค่รถปีที่ 2 เท่านั้น เพราะที่ผ่านมารถใหม่ป้ายแดงก็เข้ามาทำประกันกับเราเหมือนกัน ซึ่งบางคนเขาไม่ได้เข้าไฟแนนซ์ก็มีมา ซึ่งเชื่อว่าตลาดรถยนต์ในปีนี้น่าจะคึกคักและเป็นส่วนทำให้ธุรกิจประกันภัยเติบโตขึ้นอีก"นายอรัญกล่าว
นายอรัญ กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมที่จะขยายงานเพื่อรุกธุรกิจมากขึ้น โดยในส่วนตัวแทนนั้นปัจจุบันมีอยู่กว่า 2 หมื่นคน และน่าจะปรับเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นพวกที่มีผลงานสม่ำเสมอถึงกว่า 8 พันคน ส่วนในปีนี้บริษัทน่าจะมีตัวแทนเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 2,500 คน นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมบุกตลาดในด้านอื่นด้วยเช่น ช่องทางการขายผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งหลังจากนี้สิ่งบริษัทจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือการเพิ่มศักยภาพของตัวแทนให้ได้มากที่สุด
ด้าน รายงานจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2556 คาดว่าระบบจะมีเบี้ยประกันรับตรงรวมที่แตะระดับ 2 แสนล้านบาทเป็นครั้งแรก แต่อัตราการขยายตัวจะชะลอลงเป็นประมาณ 12-15% จากผลของฐานเปรียบเทียบที่สูงในปี 2555 และแรงส่งจากนโยบายรถคันแรกซึ่งคาดว่าอาจมีอยู่เฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2556
อย่างไรก็ดี การประเมินว่าธุรกิจจะยังสามารถรักษาแรงส่งการขยายตัวไว้ได้ในปี2556 ท่ามกลางการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ใกล้เคียงกับปีก่อนนั้น มาจากปัจจัยสนับสนุนหลัก คือ ความสำเร็จในการขยายฐานธุรกิจประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงการรักษาอัตราการต่ออายุกรมธรรม์ควบคู่ไปกับการเพิ่มจำนวนลูกค้ารายใหม่ รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกันวินาศภัยให้มีมูลค่าเพิ่มควบคู่กับการขยายตลาดการรับประกันไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น
นายอรัญ ศรีว่องไทย กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทมิตรแท้ประกันภัย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจประกันภัยในปีที่ผ่านมาได้รับอานิสงส์จากนโยบายรถคันแรกที่ออกสู่ตลาดหลายแสนคัน ส่งผลให้อัตรการเติบโตของธุรกิจประกันภัยอยู่ที่ประมาณ 20% ส่วนในปีนี่คาดว่าธุรกิจประกันภัยจะยังคงเติบโตในระดับเดียวกัน เนื่องจากเชื่อว่าตลาดรถยนต์ของไทยน่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้คนไทยยังหันมาให้ความสนใจการทำประกันมากขึ้น หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2554
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทเชื่อว่าในปีนี้บริษัทน่าจะมีเบี้ยรับรวมเติบโตได้ถึง 10% หรืออยู่ที่ประมาณ 2,700 ล้านบาท จากเดิมในปีที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ยรับรวมประมาณ 2,500 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 15%
"ในปีนี้เราคงจะทำตลาดรถยนต์ได้ดีขึ้นเพราะรถคันแรกจะกลายเป็นรถปีที่ 2 ซึ่งจะตรงกับลูกค้าของบริษัท แต่ไม่ใช่ว่าแค่รถปีที่ 2 เท่านั้น เพราะที่ผ่านมารถใหม่ป้ายแดงก็เข้ามาทำประกันกับเราเหมือนกัน ซึ่งบางคนเขาไม่ได้เข้าไฟแนนซ์ก็มีมา ซึ่งเชื่อว่าตลาดรถยนต์ในปีนี้น่าจะคึกคักและเป็นส่วนทำให้ธุรกิจประกันภัยเติบโตขึ้นอีก"นายอรัญกล่าว
นายอรัญ กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมที่จะขยายงานเพื่อรุกธุรกิจมากขึ้น โดยในส่วนตัวแทนนั้นปัจจุบันมีอยู่กว่า 2 หมื่นคน และน่าจะปรับเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นพวกที่มีผลงานสม่ำเสมอถึงกว่า 8 พันคน ส่วนในปีนี้บริษัทน่าจะมีตัวแทนเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 2,500 คน นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมบุกตลาดในด้านอื่นด้วยเช่น ช่องทางการขายผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งหลังจากนี้สิ่งบริษัทจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือการเพิ่มศักยภาพของตัวแทนให้ได้มากที่สุด
ด้าน รายงานจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2556 คาดว่าระบบจะมีเบี้ยประกันรับตรงรวมที่แตะระดับ 2 แสนล้านบาทเป็นครั้งแรก แต่อัตราการขยายตัวจะชะลอลงเป็นประมาณ 12-15% จากผลของฐานเปรียบเทียบที่สูงในปี 2555 และแรงส่งจากนโยบายรถคันแรกซึ่งคาดว่าอาจมีอยู่เฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2556
อย่างไรก็ดี การประเมินว่าธุรกิจจะยังสามารถรักษาแรงส่งการขยายตัวไว้ได้ในปี2556 ท่ามกลางการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ใกล้เคียงกับปีก่อนนั้น มาจากปัจจัยสนับสนุนหลัก คือ ความสำเร็จในการขยายฐานธุรกิจประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงการรักษาอัตราการต่ออายุกรมธรรม์ควบคู่ไปกับการเพิ่มจำนวนลูกค้ารายใหม่ รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกันวินาศภัยให้มีมูลค่าเพิ่มควบคู่กับการขยายตลาดการรับประกันไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น