2 บลจ.ฟินันซ่า และ บลจ.กรุงศรี ส่งกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น 6 เดือน คาด กนง.อาจปรับดอกเบี้ยอย่างน้อยอีกครั้งในต้นปีหน้า
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า จำกัด กล่าวว่า หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2555 เรามองว่าาดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้า 2556 อาจจะลงได้อีกอย่างน้อยหนึ่ง-สองครั้ง และคงที่ระยะหนึ่ง ดังนั้น นักลงทุนอาจพิจารณาการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะ 6 เดือนก่อนเพื่อล็อกอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยนโยบาย เพราะดูแล้วความเสี่ยงหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) ของสหรัฐฯ อาจจะเกินระดับหนึ่งแต่ไม่รุนแรงมาก และอาจจะทำให้ กนง.ต้องลดดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งในต้นปีหน้า
ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่มีเงินเย็น และรับความเสี่ยงต่ำ ควรพิจารณาลงทุนในกองทุนอายุ 6 เดือน ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยนโยบาย คือ กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส โรล โอเวอร์ 6 เดือน 3 (FAM FIPR 6M3) สำหรับการลงทุน 6 เดือนเป็นกองทุนที่เสนอขายครั้งที่ 1 ซึ่งให้ประมาณการผลตอบแทนที่ 3.15% ต่อปี และเปิดเสนอขายตั้งแต่ 30 พ.ย.-7 ธ.ค. 2555 นี้ โดยสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท
สำหรับ FAM FIPR6M3 เป็นกองทุน specific fund โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือ เงินฝาก ของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD กับธนาคาร Standard Charter, Singapore, ธนาคาร CIMB, Niaga, Indonesia หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ธนาคาร CBQ Qatar, ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตราสารหนี้ บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991), ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง, ตราสารหนี้ บมจ.บัตรกรุงไทย หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ BBB+ ขึ้นไป ตั๋วเงินคลังหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ทางด้านนายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M47 (KFFIX6M47) อายุประมาณ 6 เดือน เสนอขายระหว่างวันที่ 4-11 ธ.ค. 55 โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดย ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย จก.(มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 11% ตั๋วแลกเงินออกโดย บ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 11% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดย ธ. Banco Bradesco S.A. (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 17% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดย ธ. Banco Itau Unibanco S.A. (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 17% เงินฝากธนาคาร Standard Chartered Bank (สิงคโปร์) สัดส่วนการลงทุน 24% เงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20%
โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.05% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป
