xs
xsm
sm
md
lg

กองบอนด์สั้นยังให้ยิลด์ดี แม้ดอกเบี้ยนโยบายขยับลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แม้ดอกเบี้ยนโยบายจะขยับลงแต่กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นยังให้ผลตอบแทนน่าสนใจ บลจ.แอสเซท พลัสส่ง 2 กองทุนให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 2.80% ต่อปี ส่วน บลจ.กรุงศรีพร้อมขายไอพีโอ “กรุงศรีตราสารหนี้” 6M42 และ “กรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศ 6M2” ให้ผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี เปิดขายพร้อมกันตั้งแต่วันนี้ถึง 5 พ.ย. 55

นางสาวฤดี ปติอารยกุล ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส กล่าวว่า ทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ปรับลดอัตราการขยายตัวของ GDP ในปี 2556 อยู่ที่ระดับ 4.6% จากเดิมคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 5% เนื่องจากคาดว่าการส่งออกจะลดลงในอัตราที่มากกว่าการเพิ่มขึ้นของการบริโภคในประเทศ เนื่องจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของประเทศต่างๆ ยังไม่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนแอและแนวทางปัญหาหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศยูโรยังไม่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน อย่างไรก็ดี คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังมีความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจมากกว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในประเทศ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์และปัจจัยต่างๆ ที่กระทบต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด

ทางด้านนางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการขายและการตลาด บลจ.แอสเซท พลัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งยังมีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางที่ชัดเจนได้ เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ การเติบโตในอัตราที่ลดลงของเศรษฐกิจประเทศจีน ดังนั้น สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ บริษัทฯ ยังคงแนะนำให้ลงทุนในระยะสั้น 3 เดือน ถึง 6 เดือนเพื่อสร้างสภาพคล่องทางการเงินและรอจังหวะเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่มีผลตอบแทนเพิ่มขึ้น โดยในวันที่ 31 ตุลาคมบริษัทฯ จะ Rollover 2 กองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ทวีทรัพย์ 7 (ASP-TFIXED7) ผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อปี และ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทรัพย์มั่นคง 3 (ASP-SIF3) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทย อายุประมาณ 3 เดือน ซึ่งให้ผลตอบแทนประมาณ 2.80% ต่อปี

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้บริษัทเปิดเสนอขาย 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M42 (KFFIX6M42) อายุประมาณ 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐไทย สัดส่วนการลงทุน 32% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดย ธ.กรุงศรีอยุธยา จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 8% ตั๋วแลกเงินออกโดย บ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร China Construction Bank (สาขาฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% และเงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20% โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.00% ต่อปี

นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศ 6M2 (KFFIF6M2) อายุประมาณ 6 เดือน กองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนใน 5 ตราสาร คือ ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Banco do Brasil S.A (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Banco Itau Unibanco S.A. (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 23% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Banco Bradesco S.A. (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 23% เงินฝากธนาคาร China Construction Bank (สาขาฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% และเงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 24% กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.00% ต่อปี โดยกองทุนทั้งสองเปิดขายระหว่างวันที่ 30 ต.ค.-5 พ.ย. 55


กำลังโหลดความคิดเห็น