บลจ.กรุงไทย และ บลจ.ฟินันซ่าส่งกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ลงทุน 3 เดือน ให้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 3.20% เปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 9 ตุลาคม 2555
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 53 (KTSUPB53) ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2555 อายุ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท นโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 โดยกองทุนจะลงทุนในเงินฝากประจำของ Abu Dhabi Commercial Bank, The Commercial bank of Qatar, Union Nation Bank, MTN ออกโดย Banco Santander Brazil S.A., MTN ออกโดย Banco Bradesco S.A. ในสัดส่วน 78% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก ตราสารการเงินระยะสั้นธนาคารพาณิชย์ไทย ตั๋วแลกเงินบริษัทเอกชนไทย ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.20% ต่อปี
นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 1 (KTFIX6M1) เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ เปิดจำหน่ายถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2555 อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ และเงินฝากประจำธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.85% ต่อปี
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า บริษัทได้จัดโปรโมชันสำหรับกองทุน RMF-LTF ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม-28 ธันวาคม 2555 โดยผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนตามขั้นที่กำหนดไว้สูงสุดถึง 120,000 บาท พร้อมรับคะแนนสะสมจากการชำระผ่านบัตรเครดิตทั้งเคทีซี และซิตี้แบงก์ โดยเคทีซีรับคะแนนสะสมทุก 100 บาทรับ 1 คะแนน เมื่อซื้อกองทุน RMF-LTF รวมกันทุกกองทุน โดยมียอดซื้อตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป ผ่านสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ สำหรับบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ ทุกๆ 50 บาทรับ 1 คะแนนเมื่อซื้อ RMF-LTF ที่เป็นกองหุ้นและกองผสม ได้แก่ KTLF, KSLTF, KTLF70/30 KSET50LTF, RMF1, KSRMF, KTSE-RMF และรับเพิ่มคะแนนสะสมอีก 4,000 คะแนน เมื่อแบ่งชำระ 0% นาน 3 เดือน ตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป/เซลสลิป
นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานจากการบริหารกองทุนของบริษัทสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานAIMC ที่กำหนดไว้ ย้อนหลังล่าสุด ณ วันที่ 21 กันยายน 2555 กองทุนเปิดกรุงไทยผสมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF1 ) ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 10.55% 6 เดือนอยู่ที่ 5.37% 1 ปี อยู่ที่ 21.76% และ YTD อยู่ที่ 23.88% ส่วนเกณฑ์มาตรฐาน AIMC ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.91% 6 เดือนอยู่ที่ 4.32% 1 ปีอยู่ที่ 14.32% และYTD อยู่ที่ 13.55%
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ฟินันซ่า จำกัด กล่าวว่า มีโอกาสต่ำมากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และมีความเป็นไปได้ที่จะลดดอกเบี้ยนโยบายอันเนื่องมาจากการส่งออกของไทยชะลอตัวอย่างมาก และลดแรงจูงใจของเงินทุนต่างประเทศไม่ให้ไหลเข้ามาหาผลประโยชน์ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไทยและประเทศตะวันตกซึ่งจะส่งผลเสียให้ค่าเงินบาทแข็งค่า ดังนั้น นักลงทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ควรลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่ยังให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ ขณะนี้ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะลดดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต
กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส โรล โอเวอร์ 3เดือน2 (FAM FIPR3M2) จะเปิดเสนอขายครั้งที่ 2 ตั้งแต่ 2-9 ตุลาคม 2555 นี้ ด้วยประมาณการผลตอบแทนที่ 3.22% ต่อปี โดยสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท นักลงทุนสามารถใช้ช่องทางการลงทุนใหม่ล่าสุดของบริษัท โดยซื้อกองทุนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต skype ได้ที่ศูนย์บริการเคทีซี ทัช 14 สาขา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2352-4050
สำหรับ FAM FIPR 3M2 เป็น specific fund หรือกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้น โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือเงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) โดยในครั้งนี้เราจะลงทุนในเงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงิน USD หรือ CNY กับธนาคาร BOC, Macao, ธนาคาร CIMB, Niaga, Indonesia หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ตั๋วแลกเงิน บมจ. ดั๊บเบิ้ล เอ(1991) (BBB) ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (BBB+) หรือ บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (BBB+) ตราสารหนี้ บมจ.บัตรกรุงไทย (BBB+) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชน ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม เราจะเปิดให้มีการซื้อและขายคืนหน่วยลงทุนทุกๆ 3 เดือนโดยประมาณ นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม กองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นในตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชน และ/หรือเงินฝาก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคารในระยะเวลานานประมาณ 3 เดือนสำหรับการลงทุนแต่ละรอบ กองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศซึ่งเราจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน