บลจ.กรุงไทยประเมินการประชุมของ กนง.ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิม เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจยังมีสูง เงินเฟ้อก็ยังควบคุมได้ พร้อมแนะนักลงทุนลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาวะตลาดตราสารหนี้ของไทยยังคงปรับตัวลดลง โดยตราสารหนี้ระยะสั้นไม่เกิน 1 ปีอยู่ในช่วง 2.88-3.14% เนื่องจากความกังวลต่อความเสี่ยงทางเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ทั้งนี้ ในกลางสัปดาห์นี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการประชุมเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งตลาดการเงินส่วนใหญ่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 3.00% ต่อเนื่อง เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจสูง ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
สำหรับแนวโน้มอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศยังได้รับอิทธิพลจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งมีผลต่อต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราแลกเปลี่ยนสวอประหว่างสกุลบาทกับดอลลาร์สหรัฐเริ่มทรงตัว ซึ่งตลาดการเงินรอติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงินในสเปน และรอผลการเลือกตั้งของกรีซ ซึ่งจะส่งผลต่อสถานะการคงอยู่เป็นสมาชิกของกลุ่มประชาคมยุโรป ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือเริ่มมีการทยอยปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศและสถาบันการเงินในยุโรป ทำให้ตลาดยังคงมีความกังวลต่อความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ และจะกระทบให้เกิดความไม่แน่นอนต่ออัตราผลตอบแทนและทิศทางการเงินการลงทุนในต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี38 (KTSUPB38) ในวันที่ 13-20 มิถุนายน 2555 อายุ 6 เดือน มูลค่า 5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เงินฝาก/ตราสารการเงินระยะสั้นธนาคารพาณิชย์ไทย และตั๋วแลกเงินบริษัทเอกชนไทย ในสัดส่วน 30% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ PT Bank CIMB Niaga Tbk (CIMB NIAGA ), เงินฝากประจำ Union National Bank (UNB), เงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank (ADCB) และ MTN ออกโดย Banco Bradesco S.A. (BRADES) โดยเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.20% ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3เดือน3 (KTSIV3M3) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2555 เป็นกองทุนประเภท Roll Over อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝาก/บัตรเงินฝาก หุ้นกู้ระยะสั้น ของธนาคารออมสิน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 44% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงินของภาคเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.85% ต่อปี
ทางด้านนายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ฟินันซ่า จำกัด กล่าวว่า จากปัญหาหนี้ยุโรปทำให้สินทรัพย์เสี่ยงยังไม่น่าไว้ใจในช่วงนี้ และยังส่งผลกระทบถึงตลาดหุ้นไทยฉุดให้ดัชนีลดลงในช่วงที่ผ่านมา ผนวกกับการที่ธนาคารจีนลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายกะทันหันในรอบ 4 ปี สะท้อนว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง และโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยจึงลดลงไปด้วย แนะนำให้รอดูสถานการณ์ โดยลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อพักเงินไว้ก่อนเพื่อรอลงทุนเมื่อสถานการณ์คลายตัวลง กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส โรล โอเวอร์ 3เดือน1 (FAM FIPR 3M1) จะเปิดเสนอขายตั้งแต่ 11 มิถุนายน-15 มิถุนายน 2555 นี้ ด้วยประมาณการผลตอบแทนที่ 3.2% ต่อปีสำหรับการลงทุน 3 เดือน โดยเป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากกองแรก สามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท นักลงทุนสามารถใช้ช่องทางการลงทุนใหม่ล่าสุดของบริษัทโดยซื้อกองทุนผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ที่ศูนย์บริการเคทีซี ทัช 14 สาขา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2352-4050
สำหรับกองทุน FAM FIPR 3M1 เป็น specific fund หรือกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้น โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือเงินฝาก ของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) โดยในครั้งนี้เราจะลงทุนในเงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงิน USD หรือ CNY กับธนาคาร BOC, Macao, ธนาคาร CIMB, Niaga, Indonesia หรือเงินฝากสกุลเงิน AED กับธนาคาร Abu Dhabi Commercial bank, UAE (F1) ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ เงินฝาก AED ธนาคาร Union National Bank, UAE (P-1) หรือ เงินฝากธนาคาร และ/หรือตั๋วเงิน และ/หรือหุ้นกู้ หุ้นกู้ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (A) หรือตราสารหนี้ และ/หรือหุ้นกู้ ตราสารหนี้ บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB) ตั๋วแลกเงิน หรือ ตราสารหนี้บริษัทเอกชนที่อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Inv.Grade) ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
