อู้ฟู่หรูหราขึ้นมาทีเดียวสำหรับหุ้นไทยช่วงสุดท้ายของสัปดาห์โดยเฉพาะวันศุกร์สิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ดัชนีพุ่งพรวดขึ้นมา 14.47 จุดแตะ 1,324.04 จุด แต่ที่เห็นได้ชัดคงจะเป็นมูลค่าการซื้อขายทะลักจุดแตกระดับ 77,598.25 ล้านบาท ต้องขอบอกตามตรงว่าไม่ได้เห็นตัวเลขแบบนี้มานานพอดู
ยังไงก็ตามสำหรับดัชนีหุ้นไทยเชื่อว่ายังลุ้นกันได้อีกหนึ่งเดือนกว่าจะหมดปีว่าจะทำสถิติใหม่กันได้หรือไม่ เพราะช่วงเดือนนี้จะมีเม็ดเงินของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF)เข้ามาช่วยหนุนดัชนีกันเป็นประจำปลายปี รวมถึงความกังวลปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐอเมริกาเริ่มคลี่คลายลงไปบ้างก็น่าจะส่งผลดีให้ได้เห็นกันอีกรอบ
ส่วนใครเตรียมการลงทุนปีนี้หรืออยากจัดพอร์ตใหม่ เจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล บอกถึงการจัดพอร์ตของนักลงทุนในปีหน้าว่า การลงทุนในปีหน้าการจัดพอร์ตก็ยังขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่รับได้ของแต่ละบคคลเป็นหลักทั้งแบบ เสี่ยงน้อย เสี่ยงกลาง และเสี่ยงมาก ส่วนคำแนะนำที่ให้โยกเงินไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นนั้นจะต้องทำอย่างระมัดระวัง ซึ่งการเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต้องกระจายออกไปถึงจะดีที่สุด
"ถ้าเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงคงจะต้องกระจายไม่ใช่แค่ลงทุนในหุ้นอย่างเดียว ซึ่งถ้าแบ่งคงจะให้พอร์ตเป็นกองตราสารหนี้ระยะกลางสัก60% หุ้น10% อสังหาฯ10% ทองคำ10% ต่างประเทศ10% ประมาณนี้ แต่ว่ายังต้องแล้วแต่ความเสี่ยงที่รับได้ด้วย"
ถ้าผู้อ่านสนใจก็สามารถนำไปปรับใช้กันได้ ส่วนในสัปดาห์นี้มีหลายกองทุนออกใหม่ให้นักลงทุนได้เลือกกัน ทั้งกองทุนตราสารหนี้ กองทุนหุ้น และการเพิ่มทุนกองอสังหาฯ
เริ่มด้วยกองที่ทางบลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล แนะนำเอาไว้อย่าง กองทุนเปิด CIMB-Principal Core Fixed Income Fund (CIMB-PRINCIPAL iFIXED)โดยทำการเปิดขายระหว่างวันที่ 26 พ.ย.-4 ธ.ค. 55
ส่วนจุดเด่นของกองทุนนี้ บลจ.ซีไอเอ็มบีมั่นใจมาก และอยากแนะนำให้นักลงทุนใช้เป็นสินทรัพย์หลัก หรือพระเอกในพอร์ตลงทุนกันเลยทีเดียว โดยให้เหตุผลว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางจากข้อมูลที่ผ่านมาผลตอบแทนที่ได้จะสูงกว่าเงินเฟ้อ และคาดว่ากองทุนนี้น่าจะทำผลตอบแทนได้สูงถึง 3.75-4.25% ต่อปี
ด้านบลจ.ทิสโก้ เจ้าประจำกับกองทุนทาร์เก็ตฟันด์ ล่าสุดเปิดขายเพิ่มอีก 1 กองทุน"กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 6"ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน-13 ธันวาคม 2555
สำหรับเป้าผลตอบแทนของกองทุนนี้จะอยู่ที่8% และคงเป็นการลงทุนในหุ้นไทย ซึ่งมุมมองของบลจ.ทิสโก้ยังเป็นบวกกับหุ้นไทย และคาดว่าดัชนีในปีหน้าจะอยู่ในระดับ 1,450 จุดได้ และถ้าดูจากผลงานที่กล่าวมาข้างต้นแล้วกองทุนนี้ก็น่าสนใจสำหรับคนชอบเสี่ยงแน่นอน เพราะผลงานกองทาร์เก็ตฟันด์ของบลจ.ทิสโก้นั้นการันตีให้เห็นมาหลายกองแล้วเช่นกัน
สุดท้ายรับรองว่าแจ่มไม่แพ้กันเพราะเป็นกองอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถ้านักลงทุนต้องการจัดพอร์ตตามคำแนะนำข้างต้นแล้วกองทุนนี้น่าสนใจทีเดียว เพราะเป็นการเพิ่มทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมียม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF)โดยจะเปิดจองแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมในวันที่ 11-13 ธันวาคม 2555 และสำหรับผู้ลงทุนรายใหม่ในวันที่ 19-25 ธันวาคม 2555
และที่ว่าน่าสนใจเพราะถ้าดูจากผลประกอบการในรอบปี 2554-2555 แล้วมีการปันผลถึง 4 ครั้งเป็นเงินรวมกว่า 159.35 ล้านบาท หรือเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 7.22% ต่อปีเลยทีเดียว
ทั้งหมดเป็นข่าวเด่นๆ กองทุนใหม่ที่ทีมงานรวบยอดเอาไว้ให้แก่ผู้อ่าน แต่ถ้าต้องการรายละเอียดแบบเต็มที่สามารถดูกันได้ภายในเว็บไซด์ย้อนหลัง ส่วนในสัปดาห์หน้ารับรองว่าจะนำข้อมูลโค้งสุดท้ายของกองทุนหักลดหย่อนภาษีมาให้ได้ทราบกันว่า บลจ.ไหนมีกองทุนอะไรบ้าง หรือมีมุมมองแนะนำนักลงทุนอะไรเพื่อนอกจากใช้หักภาษีแล้วยังได้ผลตอบแทนเพิ่มด้วย เอาเป็นว่าห้ามพลาดเด็ดขาด...