เมืองไทยประกันภัยรุกตั้งสาขาย่อย ทุ่ม 190 ล้านบาทเปิด 16 สาขาทั่วประเทศ หวังใช้เป็นช่องทางเข้าถึงและให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร พร้อมตั้งเป้าเพิ่มตัวแทนเดี่ยวอีก 250 ราย และตัวแทนที่มีสาขาอีก 350 รายทั่วภูมิภาค มั่นใจช่วยขยายฐานลูกค้าได้ทั่วถึงมากขึ้น
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่อัตราเบี้ยประกันภัยของบริษัทในไตรมาสที่ 3 มีการเติบโตประมาณ 30% บริษัทได้ตั้งเป้าขยายยอดขายในทุกช่องทางให้มีการเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่องทางของพันธมิตรคู่ค้ากับบริษัท และช่องทางสาขาย่อย
ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบประมาณ 190 ล้านบาทเพื่อทำการก่อสร้างพร้อมเปิดสาขาใหม่ 16 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ หาดใหญ่ ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก นครสวรรค์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ หัวหิน ภูเก็ต สมุทรสงคราม เชียงราย สกลนคร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และสระบุรี
"การเปิดสาขาทั้งหมดเพื่อการให้บริการที่สะดวกรวดเร็ว ปรับปรุงการบริการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า และช่องทางการขายที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการขยายขีดความสามารถด้านการบริหารจัดการ เพื่อให้สามารถครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยสาขาย่อยที่ใช้เป็นศูนย์กลางในการให้บริการลูกค้าในแต่ละพื้นที่นั้น พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างรู้ใจ ตรงตามความคาดหวัง ตอบสนองความต้องการได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นด้านการรับประกันภัย ด้านสินไหมรถยนต์ และด้านการเงิน"
นางนวลพรรณ กล่าวอีกว่า นอกจากการเปิดให้บริการของสาขาแล้วในปีนี้ บริษัทได้เพิ่มตัวแทนเดี่ยวที่มีศักยภาพในการให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 250 ราย และยังตั้งเป้าให้มีตัวแทนที่ตั้งเป็นสำนักงานตัวแทนอีก 350 ราย อยู่ทุกทั่วภูมิภาค
ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนในการอบรมในด้านการบริหารจัดการทั้งความรู้ด้านประกันภัย และความรู้ในการทำธุรกิจเพื่อการให้บริการเป็นไปอย่างมืออาชีพ และมีคุณภาพที่ดี สำหรับในไตรมาสสุดท้ายบริษัทได้มีการสัมนาตัวแทนเพื่อให้เข้าใจใน Core Value และทิศทางเป้าหมายของบริษัท ในปี 2556 บริษัทได้วางแผนกลยุทธ์ในการขยายตลาดคือ การขยายช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้นเพื่อเข้าสู่กลุ่มลูกค้ารายใหม่ ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่วนพื้นที่ภาคใต้เป็นภาคที่บริษัทมีการเติบโตค่อนข้างมากในแผนงานจะเริ่มขยายงานลงระดับท้องที่ต่าง ๆ ให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ช่องทางธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ นับเป็นอย่างช่องทางที่บริษัทมีพันธมิตรคู่ค้าหลายธนาคาร เพื่อให้บริการในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้เหมาะสมกับ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
นางนวลพรรณ กล่าวว่า นอกจากบริษัทได้ขยายการขายกับกลุ่มพันธมิตรต่าง ๆ แล้ว บริษัทเริ่มต้นในการให้บริการขายผลิตภัณฑ์พื้นฐาน ผ่านระบบ e-Commerce ซึ่งเป็นการขายประกันผ่านระบบออนไลน์เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งบริษัทมีเจ้าหน้าที่ให้บริการตอบคำถามและดูแลในด้านการขายและการบริการสินไหม
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถแจ้งเคลมผ่านระบบออนไลน์ ในเบื้องต้นเพื่อบริษัทดำเนินการเตรียมข้อมูลเมื่อลูกค้าส่งเอกสารตัวจริงมา ทำให้เวลาในการให้บริการรวดเร็วขึ้น บริษัทมองเห็นโอกาสผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาทำการหาข้อมูล และซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกๆ
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่อัตราเบี้ยประกันภัยของบริษัทในไตรมาสที่ 3 มีการเติบโตประมาณ 30% บริษัทได้ตั้งเป้าขยายยอดขายในทุกช่องทางให้มีการเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่องทางของพันธมิตรคู่ค้ากับบริษัท และช่องทางสาขาย่อย
ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบประมาณ 190 ล้านบาทเพื่อทำการก่อสร้างพร้อมเปิดสาขาใหม่ 16 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ หาดใหญ่ ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก นครสวรรค์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ หัวหิน ภูเก็ต สมุทรสงคราม เชียงราย สกลนคร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และสระบุรี
"การเปิดสาขาทั้งหมดเพื่อการให้บริการที่สะดวกรวดเร็ว ปรับปรุงการบริการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า และช่องทางการขายที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการขยายขีดความสามารถด้านการบริหารจัดการ เพื่อให้สามารถครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยสาขาย่อยที่ใช้เป็นศูนย์กลางในการให้บริการลูกค้าในแต่ละพื้นที่นั้น พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างรู้ใจ ตรงตามความคาดหวัง ตอบสนองความต้องการได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นด้านการรับประกันภัย ด้านสินไหมรถยนต์ และด้านการเงิน"
นางนวลพรรณ กล่าวอีกว่า นอกจากการเปิดให้บริการของสาขาแล้วในปีนี้ บริษัทได้เพิ่มตัวแทนเดี่ยวที่มีศักยภาพในการให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 250 ราย และยังตั้งเป้าให้มีตัวแทนที่ตั้งเป็นสำนักงานตัวแทนอีก 350 ราย อยู่ทุกทั่วภูมิภาค
ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนในการอบรมในด้านการบริหารจัดการทั้งความรู้ด้านประกันภัย และความรู้ในการทำธุรกิจเพื่อการให้บริการเป็นไปอย่างมืออาชีพ และมีคุณภาพที่ดี สำหรับในไตรมาสสุดท้ายบริษัทได้มีการสัมนาตัวแทนเพื่อให้เข้าใจใน Core Value และทิศทางเป้าหมายของบริษัท ในปี 2556 บริษัทได้วางแผนกลยุทธ์ในการขยายตลาดคือ การขยายช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้นเพื่อเข้าสู่กลุ่มลูกค้ารายใหม่ ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่วนพื้นที่ภาคใต้เป็นภาคที่บริษัทมีการเติบโตค่อนข้างมากในแผนงานจะเริ่มขยายงานลงระดับท้องที่ต่าง ๆ ให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ช่องทางธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ นับเป็นอย่างช่องทางที่บริษัทมีพันธมิตรคู่ค้าหลายธนาคาร เพื่อให้บริการในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้เหมาะสมกับ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
นางนวลพรรณ กล่าวว่า นอกจากบริษัทได้ขยายการขายกับกลุ่มพันธมิตรต่าง ๆ แล้ว บริษัทเริ่มต้นในการให้บริการขายผลิตภัณฑ์พื้นฐาน ผ่านระบบ e-Commerce ซึ่งเป็นการขายประกันผ่านระบบออนไลน์เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งบริษัทมีเจ้าหน้าที่ให้บริการตอบคำถามและดูแลในด้านการขายและการบริการสินไหม
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถแจ้งเคลมผ่านระบบออนไลน์ ในเบื้องต้นเพื่อบริษัทดำเนินการเตรียมข้อมูลเมื่อลูกค้าส่งเอกสารตัวจริงมา ทำให้เวลาในการให้บริการรวดเร็วขึ้น บริษัทมองเห็นโอกาสผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาทำการหาข้อมูล และซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกๆ
