นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจรประจำปี 2554 เพื่อเสริมสร้างแบบอย่างที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจประกันภัยด้วยการพัฒนาด้านบุคลากร
ส่วนกรณีการจำหน่ายเบี้ยประกันภัยพิบัติแก่ผู้ประสบปัญหาอุทกภัยนั้น นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ไม่ถึงกับมีการซื้อจำนวนมาก ยอมรับว่ายอดจำหน่ายที่ดีขึ้น เพราะเบี้ยประกันภัยจากเดิมที่เคยอยู่ในระดับสูงในช่วงประสบปัญหา และบริษัทประกันต่อในต่างประเทศไม่ยอมรับประกัน หลังจากรัฐบาลเดินหน้าป้องกันน้ำท่วมผ่านโครงการต่างๆ ทำให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจมากขึ้นจนเบี้ยประกันลดลง แต่รัฐบาลไม่ได้มีเป้าหมายเน้นการซื้อประกันผ่านกองทุน เพื่อให้การขายประกันของภาคเอกชนเป็นตัวทำงานผ่านกลไกตลาด
อย่างไรก็ตาม ยอมรับกองทุนภัยพิบัติยังมีความจำเป็น เพราะยอดซื้อยังเพิ่มต่อเนื่อง แม้จะมีการสร้างเขื่อนรอบนิคมอุตสาหกรรม แต่เพื่อต้องการดำเนินธุรกิจ ภาคเอกชนยังจำเป็นต้องซื้อประกัน
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการกองทุนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า ยอดการจำหน่ายประกันภัยพิบัติ เพื่อป้องกันน้ำท่วมในช่วง 5 เดือนแรกหลังจากการตั้งกองทุนมียอดจำหน่ายเบี้ยประกัน 10,000 ราย รวมเป็นเงินเบี้ยประกัน 100,000 ล้านบาท และเมื่อถึงเดือนตุลาคมจะเป็นช่วงครบกำหนดอายุกรมธรรม์น่าจะมียอดจำหน่าย 200,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการซื้อประกันภัยพิบัติแยกจากบริษัทประกันภัยเอกชน หากเป็นพื้นที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมเอกชนมักจะไม่ขายประกันในพื้นที่ดังกล่าว บริษัทประกันจึงจะส่งให้กองทุนประกันภัยพิบัติทำหน้าที่ในพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ส่วนภาคครัวเรือนคาดว่าจะมีผู้ซื้อประกันภัยพิบัติถึง 800,000 ครัวเรือน เนื่องจากเบี้ยประกันถูกเพียง 500 บาท วงเงินคุ้มครอง 100,000 บาท
ส่วนกรณีการจำหน่ายเบี้ยประกันภัยพิบัติแก่ผู้ประสบปัญหาอุทกภัยนั้น นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ไม่ถึงกับมีการซื้อจำนวนมาก ยอมรับว่ายอดจำหน่ายที่ดีขึ้น เพราะเบี้ยประกันภัยจากเดิมที่เคยอยู่ในระดับสูงในช่วงประสบปัญหา และบริษัทประกันต่อในต่างประเทศไม่ยอมรับประกัน หลังจากรัฐบาลเดินหน้าป้องกันน้ำท่วมผ่านโครงการต่างๆ ทำให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจมากขึ้นจนเบี้ยประกันลดลง แต่รัฐบาลไม่ได้มีเป้าหมายเน้นการซื้อประกันผ่านกองทุน เพื่อให้การขายประกันของภาคเอกชนเป็นตัวทำงานผ่านกลไกตลาด
อย่างไรก็ตาม ยอมรับกองทุนภัยพิบัติยังมีความจำเป็น เพราะยอดซื้อยังเพิ่มต่อเนื่อง แม้จะมีการสร้างเขื่อนรอบนิคมอุตสาหกรรม แต่เพื่อต้องการดำเนินธุรกิจ ภาคเอกชนยังจำเป็นต้องซื้อประกัน
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการกองทุนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า ยอดการจำหน่ายประกันภัยพิบัติ เพื่อป้องกันน้ำท่วมในช่วง 5 เดือนแรกหลังจากการตั้งกองทุนมียอดจำหน่ายเบี้ยประกัน 10,000 ราย รวมเป็นเงินเบี้ยประกัน 100,000 ล้านบาท และเมื่อถึงเดือนตุลาคมจะเป็นช่วงครบกำหนดอายุกรมธรรม์น่าจะมียอดจำหน่าย 200,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการซื้อประกันภัยพิบัติแยกจากบริษัทประกันภัยเอกชน หากเป็นพื้นที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมเอกชนมักจะไม่ขายประกันในพื้นที่ดังกล่าว บริษัทประกันจึงจะส่งให้กองทุนประกันภัยพิบัติทำหน้าที่ในพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ส่วนภาคครัวเรือนคาดว่าจะมีผู้ซื้อประกันภัยพิบัติถึง 800,000 ครัวเรือน เนื่องจากเบี้ยประกันถูกเพียง 500 บาท วงเงินคุ้มครอง 100,000 บาท
