อาคเนย์จ้องฮุบ 3 บ.ประกันชีวิต"ธนชาต-นครหลวงไทย-ฟินันซ่า" หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ด้าน"อิสลามแบงก์"ไม่น้อยหน้าจ่อซื้อธุรกิจประกันชีวิต-ประกันภัย แตกไลน์ธุรกิจด้วย "โชติพัฒน์"ระบุ2บริษัทเครือธนชาตน่าสน เหตุได้ไลน์เซนแบงก์แอสชัวรนส์ในข้อตกลง ขณะที่ล่าสุดจับมืออิสลามแบงก์รุกขายประกัน"ตะกาฟุล"ตามหลักศาสนา หวังเจาะตลาดชาวไทยมุสลิมกว่า 9 ล้านคนทั่วประเทศ
นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานกรรมการบริหาร อาคเนย์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทสนใจที่จะเข้าไปซื้อประกันชีวิต 2 แห่ง คือ ธนชาตประกันชีวิต และ ประกันชีวิตนครหลวงไทย เพราะได้ใบอนุญาตแบงก์แอสชัวรันส์มาด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาอยู่ แต่ยอมรับว่ามีคู่แข่งหลายรายที่สนใจ โดยเฉพาะต่างชาติที่ให้ความสนใจ
“การเข้าไปซื้อประกันชีวิตในเครือธนชาต เราจะใช้โฮลดิ้งเข้าไปซื้อ ซึ่งนโยบายเบื้องต้นที่เข้าไปซื้อกิจการครั้งนี้ ต้องการลงทุนระยะยาว มีผลตอบแทนที่เหมาะสม คือ ต้องได้รับผลตอแบทน 2 หลักขึ้นไป และเท่าที่ดูเบื้องต้นทั้ง 2 บริษัทก็มีกำไรที่ดี แถมหากซื้อได้ก็ได้แบงก์แอสชัวรันส์เข้ามาด้วย ซึ่งตามเงื่อนไขธนชาตก็ได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายไปด้วย ขณะนี้เรากำลังเจรจาอยู่ เพราะมีคู่แข่งหลายรายสนใจที่จะซื้อธุรกิจเหมือนกัน ทั้งต่างชาติ และ บริษัทประกันไทยด้วยกัน ซึ่งต้องดูว่าจะสามารถซื้อได้แค่ไหน 100% หรือว่าร่วมทุน"
ขณะที่ บริษัทฟินันซ่าประกันชีวิต บริษัทก็มีความสนใจ หาก มีการขายในราคาตลาด หรือ Mark To Market โดยต้องการซื้อเฉพาะทรัพย์สิน ไม่ต้องการซื้อใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันชีวิต เพราะซื้อมาก็ต้องคืนกลับให้คปภ.
อย่างไรก็ตามบริษัทไม่สนใจซื้อธนาคาร เพราะธนาคารจะมีบริษัทประกันในเครือที่จะต้องทำควบคู่กันไปตลอด แต่การซื้อประกันชีวิตสามารถที่จะไปจับมือกับธนาคารใดก็ได้ ซึ่งบริษัทได้พันธมิตรรายใหม่เป็นธนาคารอิสลามในการที่จะขายประกันอาคเนย์ตะกาฟุล ที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม
ด้าน นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ ผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ IBank เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมเข้าซื้อธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตในประเทศจำนวน 3 แห่งด้วยกัน หวังต่อยอดธุรกิจธนาคารแบบครบวงจร ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำการเจรจาและตรวจสอบทรัพย์สิน โดยไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจะแล้วเสร็จช่วงใด แต่คงไม่ใช่บริษัทฟินันซ่าประกันชีวิต
“เราไม่สนใจที่จะซื้อบริษัทฟินันซ่าประกันชีวิตแน่นอน เพราะมองว่าการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวไม่ได้สร้างผลประโยชน์อะไรกับธนาคารมากนัก และด้วยกฎของการเป็นรัฐวิสาหกิจ ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามลงทุนในกิจการที่ขาดทุน ดังนั้น จากการประเมินดู ฟินันซ่า จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จะสร้างผลประโยชน์ให้กับธนาคาร อย่างไรธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัยที่ธนาคารสนใจ ยอมรับว่าธุรกิจขนาดเล็กของไทย” นายธีรศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ เชื่อว่าด้วยสภาพคล่องที่มีอยู่ในระดับที่สูงมากถึง 10,000 ล้านบาท แผนการเข้าซื้อกิจการธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตของธนาคารในครั้งนี้ จึงไม่มีปัญหาแน่นอน และแผนการลงทุนดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับแผนการข้าระดมทุนในลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แต่อย่างไร
อาคเนย์รุกประกันตามหลักอิสลาม
นายโชติพัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับ ปี 2555 บริษัทตั้งเป้าเบี้ยรับรวมประกันชีวิตไว้ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 30%จากปี 2554 และเบี้ยประกันวินาศภัยในปีนี้ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 4.5พันล้านบาทเติบโตกว่า 30%เช่นเดียวกัน ส่วนธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อให้ได้ 5,000 คัน จากปี 2554 ที่ทำได้ 4,000 คัน
ล่าสุดได้ร่วมกับ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ขายประกันตะกาฟุลที่ถูกต้องตามหลักศาสนาให้แก่ชาวไทยมุสลิมที่มีอยู่กว่า 9 ล้านคนในประเทศ โดยคาดว่าในปีแรกจะมียอดขายประกันตะกาฟุล ประมาณ 10 ล้านบาท จากยอดขายประกันตะกาฟุลทั้งหมดของธนาคารอิสลามที่เฉลี่ยอยู่ปีละ 500 ล้านบาท สำหรับประกันภัยน้ำท่วม นั้น บริษัทมีความพร้อมอยู่แล้ว ส่วนให้บริษัทประกันรับเอาไว้ 1% นั้นไม่มีปัญหาเพราะบริษัทมีเงินเพียงพอ
นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานกรรมการบริหาร อาคเนย์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทสนใจที่จะเข้าไปซื้อประกันชีวิต 2 แห่ง คือ ธนชาตประกันชีวิต และ ประกันชีวิตนครหลวงไทย เพราะได้ใบอนุญาตแบงก์แอสชัวรันส์มาด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาอยู่ แต่ยอมรับว่ามีคู่แข่งหลายรายที่สนใจ โดยเฉพาะต่างชาติที่ให้ความสนใจ
“การเข้าไปซื้อประกันชีวิตในเครือธนชาต เราจะใช้โฮลดิ้งเข้าไปซื้อ ซึ่งนโยบายเบื้องต้นที่เข้าไปซื้อกิจการครั้งนี้ ต้องการลงทุนระยะยาว มีผลตอบแทนที่เหมาะสม คือ ต้องได้รับผลตอแบทน 2 หลักขึ้นไป และเท่าที่ดูเบื้องต้นทั้ง 2 บริษัทก็มีกำไรที่ดี แถมหากซื้อได้ก็ได้แบงก์แอสชัวรันส์เข้ามาด้วย ซึ่งตามเงื่อนไขธนชาตก็ได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายไปด้วย ขณะนี้เรากำลังเจรจาอยู่ เพราะมีคู่แข่งหลายรายสนใจที่จะซื้อธุรกิจเหมือนกัน ทั้งต่างชาติ และ บริษัทประกันไทยด้วยกัน ซึ่งต้องดูว่าจะสามารถซื้อได้แค่ไหน 100% หรือว่าร่วมทุน"
ขณะที่ บริษัทฟินันซ่าประกันชีวิต บริษัทก็มีความสนใจ หาก มีการขายในราคาตลาด หรือ Mark To Market โดยต้องการซื้อเฉพาะทรัพย์สิน ไม่ต้องการซื้อใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันชีวิต เพราะซื้อมาก็ต้องคืนกลับให้คปภ.
อย่างไรก็ตามบริษัทไม่สนใจซื้อธนาคาร เพราะธนาคารจะมีบริษัทประกันในเครือที่จะต้องทำควบคู่กันไปตลอด แต่การซื้อประกันชีวิตสามารถที่จะไปจับมือกับธนาคารใดก็ได้ ซึ่งบริษัทได้พันธมิตรรายใหม่เป็นธนาคารอิสลามในการที่จะขายประกันอาคเนย์ตะกาฟุล ที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม
ด้าน นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ ผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ IBank เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมเข้าซื้อธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตในประเทศจำนวน 3 แห่งด้วยกัน หวังต่อยอดธุรกิจธนาคารแบบครบวงจร ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำการเจรจาและตรวจสอบทรัพย์สิน โดยไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจะแล้วเสร็จช่วงใด แต่คงไม่ใช่บริษัทฟินันซ่าประกันชีวิต
“เราไม่สนใจที่จะซื้อบริษัทฟินันซ่าประกันชีวิตแน่นอน เพราะมองว่าการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวไม่ได้สร้างผลประโยชน์อะไรกับธนาคารมากนัก และด้วยกฎของการเป็นรัฐวิสาหกิจ ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามลงทุนในกิจการที่ขาดทุน ดังนั้น จากการประเมินดู ฟินันซ่า จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จะสร้างผลประโยชน์ให้กับธนาคาร อย่างไรธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัยที่ธนาคารสนใจ ยอมรับว่าธุรกิจขนาดเล็กของไทย” นายธีรศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ เชื่อว่าด้วยสภาพคล่องที่มีอยู่ในระดับที่สูงมากถึง 10,000 ล้านบาท แผนการเข้าซื้อกิจการธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตของธนาคารในครั้งนี้ จึงไม่มีปัญหาแน่นอน และแผนการลงทุนดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับแผนการข้าระดมทุนในลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แต่อย่างไร
อาคเนย์รุกประกันตามหลักอิสลาม
นายโชติพัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับ ปี 2555 บริษัทตั้งเป้าเบี้ยรับรวมประกันชีวิตไว้ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 30%จากปี 2554 และเบี้ยประกันวินาศภัยในปีนี้ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 4.5พันล้านบาทเติบโตกว่า 30%เช่นเดียวกัน ส่วนธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อให้ได้ 5,000 คัน จากปี 2554 ที่ทำได้ 4,000 คัน
ล่าสุดได้ร่วมกับ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ขายประกันตะกาฟุลที่ถูกต้องตามหลักศาสนาให้แก่ชาวไทยมุสลิมที่มีอยู่กว่า 9 ล้านคนในประเทศ โดยคาดว่าในปีแรกจะมียอดขายประกันตะกาฟุล ประมาณ 10 ล้านบาท จากยอดขายประกันตะกาฟุลทั้งหมดของธนาคารอิสลามที่เฉลี่ยอยู่ปีละ 500 ล้านบาท สำหรับประกันภัยน้ำท่วม นั้น บริษัทมีความพร้อมอยู่แล้ว ส่วนให้บริษัทประกันรับเอาไว้ 1% นั้นไม่มีปัญหาเพราะบริษัทมีเงินเพียงพอ
