ASTVผู้จัดการรายวัน-ซีไอเอ็มบี เล็งขยายธุรกิจประกันผ่านสาขาแบงก์ ตั้งเป้าปีหน้าโตอีก 15-16% จากปี 53 ที่กวาดเบี้ยรับรวมไป 900 ล้านบาท พร้อมเล็งออกกรมธรรม์น้ำท่วม รับความต้องการลูกค้าเพิ่มหลังอุทกภัย ขณะเดียวกันจับมือพันธมิตรเร่งหาผลิตภันฑ์ใหม่เพิ่ม ชูกรมธรรม์แบบยาวตอบโจทย์การปรับการลงทุน
นางสาวดุษฎี เกลียวปฏินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMB THAI เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานด้านแบงก์แอสชัวร์รันส์ (ขายประกันผ่านธนาคาร) ของธนาคารในปีหน้า(2555) ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจแบงก์แอสชัวร์รันส์อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีเบี้ยรับรวมจากช่องทางนี้เติบโตได้ถึง 15-16% จากช่วงปี 2554 ที่มีเบี้ยรับอยู่ประมาณ 900 ล้านบาท
“ธุรกิจแบงก์แอสชัวร์รันส์ของธนาคารช่วงปีนี้ ยอมรับว่าเติบโตดีมากถึง 100% เลยทีเดียวเมื่อเทียบกับกับช่วงปี 2553 ที่เติบโตไม่ค่อยดีนักโดยเป็นผลมาจากปัญหาทางการเมือง ส่งผลให้ยอดขายประกันผ่านแบงก์ในช่วงปี 2553 อยู่ที่ 400 ล้านบาทเท่านั้น แต่พอมาในปีนี้ยอดขายกับเติบโตสูงถึง 100% ยอดขายสูงถึง 900 ล้านบาท ดังนั้น ในช่วงปีหน้าแนวโน้มเศรษฐกิจอยู่ในระดับค่อนข้างดี ธนาคารจึงมีแผนที่จะขับเคลื่อนธุรกิจดังกล่าวให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าประชนหันมาให้ความสนใจกับการหาความคุ้มครองให้กับตัวเองมากขึ้น” นางสาวดุษฎี กล่าว
นอกจากนี้ในปีหน้าธนาคารยังมีแผนที่จะออกกรมธรรม์ในส่วนของน้ำท่วมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันด้วย แต่เนื่องจากติดปัญหาในส่วนของบริษัทรับประกันภัยต่อ(รีอินชัวร์เรอร์)ที่ชะลอการต่อสัญญารับทำประกันภัยต่อที่จะหมดสัญญาภายในสิ้นปีนี้ ส่งผลให้ธนาคารจำเป็นต้องรอดูสถานการณ์ดังกล่าวอีกครั้งในเรื่องของข้อสรุป
ทั้งนี้ ยอมรับว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินดังกล่าวธนาคารได้ออกแบบไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอรีอินชัวร์เรอส์สรุปข้อชัดเจนในเรืองของการต่อสัญญาเท่านั้น ส่าวนเรื่องพันธมิตรทางธุรกิจประกันภัย ธนาคารยังคงรรวมมือกับพันธมิตรเดิมคือ บริษัทไทยประกันชีวิต โดยไม่มีแนวคิดที่จะหาพันธมมิตรใหม่เข้ามาเพิ่มแต่อย่างไร เนื่องจากมองว่าไทยประกันชีวิตสามารถตอบสนองความต้องการของธนาคารและลูกค้าได้ตรงต่อความต้องการมาก
“ธุรกิจแบงก์แอสชัวร์รันส์ในช่วงที่ผ่านมา รับว่าเติบโตดี โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากพันธมิตรร่วมธุรกิจกับธนาคารที่มีอยู่ ที่มีศักยภาพในการหาผลิตภัณฑ์ดีให้กับลูกค้าธนาคารมาสโดยตลอด ธนาคารคิดว่าไม่จำเป็นต้องหาพันธมิตรเพิ่ม ด้านการประกันภัยธนาคารก็ได้บริษัท ไทยคาร์ดิฟ ประกันชีวิต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไทยประกันชีวิต และยังมีบริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ช่วยอีกแรง ดังนั้นถือว่าพันธมิตรที่มีอยู่เพียงพอแล้ว” นางสาวดุษฎี กล่าว
ส่วนการออกผลิตภัณฑ์ทั่วไป นางสาวดุษฎี กล่าวว่า บริษัทเตรียมผนึกกำลังกับพันธมิตรรายใหญ่อย่างบริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด ในการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบประกันต่างๆให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้มากขึ้น
สำหรับการหารือร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจประกันในปีหน้าธนาคารเตรียมปรับแผนการออกประกันให้เป็นระยะยาวมากขึ้น เนื่องจาก เชื่อว่าการปรับเปลี่ยนการลงทุนดังกล่าวให้มีลักษณะที่ยาวขึ้น จะช่วยให้ธนาคารมีกำไรจากการลงทุนของลูกค้ามากขึ้นตามไปด้วยโดยกรมธรรม์ที่ทางธนาคารจะออกมาสู่ท้องตลาดนั้น ก็จะเน้นการลงทุนแบบระยะยาวเป็นหลัก เช่น จากเดิมที่เสนอให้กับลูกค้าจะเป็นกรมธรรม์แบบ 4/10 หรือ 5/10 ก็อาจจะปรับเปลี่ยนมาเป็น 12/7 เป็นต้น โดยธนาคารยังคงการันตีในส่วนของผลตอบแทนที่ให้กับลูกค้าในระดับสูง โดยเฉลี่ยผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 3.5%
นางสาวดุษฎี เกลียวปฏินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMB THAI เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานด้านแบงก์แอสชัวร์รันส์ (ขายประกันผ่านธนาคาร) ของธนาคารในปีหน้า(2555) ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจแบงก์แอสชัวร์รันส์อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีเบี้ยรับรวมจากช่องทางนี้เติบโตได้ถึง 15-16% จากช่วงปี 2554 ที่มีเบี้ยรับอยู่ประมาณ 900 ล้านบาท
“ธุรกิจแบงก์แอสชัวร์รันส์ของธนาคารช่วงปีนี้ ยอมรับว่าเติบโตดีมากถึง 100% เลยทีเดียวเมื่อเทียบกับกับช่วงปี 2553 ที่เติบโตไม่ค่อยดีนักโดยเป็นผลมาจากปัญหาทางการเมือง ส่งผลให้ยอดขายประกันผ่านแบงก์ในช่วงปี 2553 อยู่ที่ 400 ล้านบาทเท่านั้น แต่พอมาในปีนี้ยอดขายกับเติบโตสูงถึง 100% ยอดขายสูงถึง 900 ล้านบาท ดังนั้น ในช่วงปีหน้าแนวโน้มเศรษฐกิจอยู่ในระดับค่อนข้างดี ธนาคารจึงมีแผนที่จะขับเคลื่อนธุรกิจดังกล่าวให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าประชนหันมาให้ความสนใจกับการหาความคุ้มครองให้กับตัวเองมากขึ้น” นางสาวดุษฎี กล่าว
นอกจากนี้ในปีหน้าธนาคารยังมีแผนที่จะออกกรมธรรม์ในส่วนของน้ำท่วมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันด้วย แต่เนื่องจากติดปัญหาในส่วนของบริษัทรับประกันภัยต่อ(รีอินชัวร์เรอร์)ที่ชะลอการต่อสัญญารับทำประกันภัยต่อที่จะหมดสัญญาภายในสิ้นปีนี้ ส่งผลให้ธนาคารจำเป็นต้องรอดูสถานการณ์ดังกล่าวอีกครั้งในเรื่องของข้อสรุป
ทั้งนี้ ยอมรับว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินดังกล่าวธนาคารได้ออกแบบไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอรีอินชัวร์เรอส์สรุปข้อชัดเจนในเรืองของการต่อสัญญาเท่านั้น ส่าวนเรื่องพันธมิตรทางธุรกิจประกันภัย ธนาคารยังคงรรวมมือกับพันธมิตรเดิมคือ บริษัทไทยประกันชีวิต โดยไม่มีแนวคิดที่จะหาพันธมมิตรใหม่เข้ามาเพิ่มแต่อย่างไร เนื่องจากมองว่าไทยประกันชีวิตสามารถตอบสนองความต้องการของธนาคารและลูกค้าได้ตรงต่อความต้องการมาก
“ธุรกิจแบงก์แอสชัวร์รันส์ในช่วงที่ผ่านมา รับว่าเติบโตดี โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากพันธมิตรร่วมธุรกิจกับธนาคารที่มีอยู่ ที่มีศักยภาพในการหาผลิตภัณฑ์ดีให้กับลูกค้าธนาคารมาสโดยตลอด ธนาคารคิดว่าไม่จำเป็นต้องหาพันธมิตรเพิ่ม ด้านการประกันภัยธนาคารก็ได้บริษัท ไทยคาร์ดิฟ ประกันชีวิต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไทยประกันชีวิต และยังมีบริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ช่วยอีกแรง ดังนั้นถือว่าพันธมิตรที่มีอยู่เพียงพอแล้ว” นางสาวดุษฎี กล่าว
ส่วนการออกผลิตภัณฑ์ทั่วไป นางสาวดุษฎี กล่าวว่า บริษัทเตรียมผนึกกำลังกับพันธมิตรรายใหญ่อย่างบริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด ในการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบประกันต่างๆให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้มากขึ้น
สำหรับการหารือร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจประกันในปีหน้าธนาคารเตรียมปรับแผนการออกประกันให้เป็นระยะยาวมากขึ้น เนื่องจาก เชื่อว่าการปรับเปลี่ยนการลงทุนดังกล่าวให้มีลักษณะที่ยาวขึ้น จะช่วยให้ธนาคารมีกำไรจากการลงทุนของลูกค้ามากขึ้นตามไปด้วยโดยกรมธรรม์ที่ทางธนาคารจะออกมาสู่ท้องตลาดนั้น ก็จะเน้นการลงทุนแบบระยะยาวเป็นหลัก เช่น จากเดิมที่เสนอให้กับลูกค้าจะเป็นกรมธรรม์แบบ 4/10 หรือ 5/10 ก็อาจจะปรับเปลี่ยนมาเป็น 12/7 เป็นต้น โดยธนาคารยังคงการันตีในส่วนของผลตอบแทนที่ให้กับลูกค้าในระดับสูง โดยเฉลี่ยผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 3.5%