xs
xsm
sm
md
lg

ทีคิวเอ็มตั้งเป้าเบี้ย6พันล้าน วิริยะพร้อมขายกรมธรรม์ภัยพิบัติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โบรกเกอร์ประกันภัยคาด"เศรษฐกิจ-น้ำท่วม"ดันธุรกิจโต ทีคิวเอ็มตั้งเป้าปี 55 ขายเบี้ย 6 พันล้านบาท พร้อมรุกต่างจังหวัดขยายลูกค้าเพิ่มเป็น 7 แสนรายทั่วประเทศ ด้านวิริยะยันพร้อมขายกรมธรรม์ภัยพิบัติ ย้ำรักษาฐานลูกค้าเดิมรับประกันตามพื้นที่เสี่ยงภัยต่อ

นายอัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีติวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรกเกอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2555 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเบี้ยประกันภัยไว้ที่ 6,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้าการขยายลูกค้าเป็น 700,000 ราย จากในปีที่ผ่านมามีลูกค้าทั้งหมด 500,000ราย โดยสัดส่วนลูกค้าต่างจังหวัดจะเพิ่มขึ้นเป็น 65% กรุงเทพมหานคร 35% จากเดิมที่มีสัดส่วนต่างจังหวัด 60% และกรุงเทพมหานคร 40%

บริษัทเชื่อว่าการพัฒนาสินค้าใหม่จะตรงกับความต้องการของตลาด และการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้จะส่งผลดีต่อธุรกิจประกันภัยโดยรวม รวมถึงการประกันภัยน้ำท่วมที่ลูกค้าสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมากก็น่าจะส่งผลดีและทำให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าได้

ส่วนในปีที่ผ่านมาเป็นปีที่บริษัทประสบความสำเร็จอีกก้าว โดยดูได้จากยอดขายประกันภัยปี54 ที่มีเบี้ยประกันรวมถึง 5,000 ล้านบาท ทั้งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม แต่ยังสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

สำหรับปี 2554 ประกันภัยรถยนต์ยังเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 84% ของยอดขายทั้งหมด ขณะที่ประกันกลุ่ม non motor และประกันชีวิตก็เติบโตขึ้นด้วย และมียอดขาย 11% ประกันชีวิต 5% ตามลำดับ

นายพันธ์เทพ ชัยปริญญา ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสินไหมทดแทน บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเดินหน้าขายกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ ตามที่สำนักงานกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดเปิดจำหน่ายแก่ภาคเอกชนและประชาชนที่ต้องการซื้อกรมธรรม์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันนี้ (28มี.ค.55) ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบรับประกันที่บริษัทต้องรับความเสี่ยงเองในอัตราเบี้ยประกันครัวเรือนที่ 0.5% ธุรกิจ SME ทุนไม่เกิน 30 ล้านบาท คิดอัตรา 1 % และภาคอุตสาหกรรม คิดอัตรา 1.25% ส่วนความเสี่ยงที่เหลือกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติจะเป็นผู้แบกรับภาระให้

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การแบกรับภาระความเสี่ยงในครั้งนี้ที่ 0.5-1% กว่านั้น ได้เพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทพอสมควรแต่เป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในลักษณะที่บริษัทรับได้ เนื่องจากบริษัทได้มีแผนในการแบ่งเบาภาระดังกล่าว โดยบริษัทจะพยายามเร่งขายกรมธรรม์นี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการช่วยเฉลี่ยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นออกไป

"บริษัทมีแผนทำการตลาดเพิ่มขึ้นสำหรับกรมธรรม์ดังกล่าวตามหัวเมืองใหญ่ๆทั่วประเทศ ส่วนลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและเป็นลูกค้าบริษัทอยู่เดิม ยังคงเดินหน้ารับประกันภัยต่อไป เนื่องจากบริษัทมองว่าเป็นการรักษาฐานลูกค้าไว้ ที่สำคัญเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าบริษัทไม่ต้องการเอาเปรียบลูกค้าจากกรณีน้ำท่วมด้วย"

ทั้งนี้ ในส่วนของค่าเบี้ยกรมธรรม์ที่บริษัทเสนอขายให้กับเอกชนและประชาชนนั้น ได้มีการปรับค่าเบี้ยเพิ่มขึ้นจากราคาเดิมประมาณ 12-15% ซึ่งอัตราที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว มองว่า ผู้บริโภคสามารถรับได้ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่เข้าใจสถานการณ์และเหตุผลที่ต้องปรับเบี้ยดังกล่าวเป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าผู้บริโภคตอบรับกับกรมธรรม์ที่บริษัทนำเสนอแน่นอน อย่างไรก็ตาม มองว่าปีนี้ภัยจากน้ำไม่น่าจะเกิดขึ้นรุนแรงเหมือนช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ในกรุงเทพ เนื่องจากรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในการรับมือไว้แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น