xs
xsm
sm
md
lg

ING ชี้หุ้นไทยทำกำไรต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จุมพล  สายมาลา
บลจ.ไอเอ็นจีคาดหุ้นไทยทำกำไรต่อ ปีหน้าดัชนีแตะ 1,420-1,450 จุด หรือเพิ่มขึ้นอีก 10-12% ได้ เหตุปัจจัยหนุนเพียบ ทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนของภาคเอกชนรับ AEC ล่าสุดเปิดขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ หวังทำกำไร 10% ตั้งแต่วันนี้ถึง 5 พฤศจิกายน เน้นลงทุนหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี แนวโน้มผลประกอบการสูงเป็นหลัก

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน ฝ่ายจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เนื่องจากอัตราปันผลเฉลี่ยของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเปรียบเทียบกับเงินปันผลเฉลี่ยของประเทศในแถบเอเชีย ซึ่งถือว่าสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของทุกประเทศทั่วโลก เช่น 5 ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนปันผลเฉลี่ย 4.3% ในขณะที่ประเทศ เช่น เกาหลีใต้ให้ปันผลเฉลี่ยเพียง 1.6% และฟิลิปปินส์มากสุดก็เท่ากับ 3.4% เท่านั้น และใน 2-3 ปีข้างหน้าตลาดหุ้นไทยก็ยังน่าจะสร้างผลตอบแทนปันผลเฉลี่ยในอัตราที่สูงกว่าต้นทุนดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำมากทั่วโลก ที่สำคัญกว่านั้น แนวโน้มการทำกำไรของตลาดหุ้นไทย (Earnings Consensus) จากข้อมูล Bloomberg (ณ กันยายน 2555) พบว่าใน 3-4 ปียังเห็นเป็น uptrend เหมือนกับในช่วงปีรัฐบาลสมัยที่เริ่มลงทุนในอีสเทิร์นซีบอร์ด

นอกจากนั้นแล้ว การลงทุนของเหล่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยเพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจให้พร้อมแข่งขันกับธุรกิจข้ามชาติได้อย่างทัดเทียมเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการเปิดรับประชาคมอาเซียน หรือ AEC ที่จะมีขึ้นในปี 2558 นับเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยได้เริ่มระบบการเชื่อมโยงระบบการซื้อขายในตลาดทุนระดับอาเซียน หรือ ASEAN Trading Link กับตลาดหุ้นมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งระบบดังกล่าวจะก่อให้เกิดความร่วมมือของตลาดทุนอาเซียน 4 ด้าน คือ การส่งเสริมธุรกรรมข้ามตลาด การพัฒนาช่องทางการเข้าถึงหลักทรัพย์อาเซียนให้สะดวกและง่ายขึ้น การออกผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิงหลักทรัพย์อาเซียน และการเพิ่มสภาพคล่องของตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียน ทำให้เชื่อว่า ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนไทยจะทำให้นักลงทุนจากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์สนใจเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นการลงทุนของภาครัฐจะเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้นจากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เน้นในด้านการลงทุนของภาครัฐจากโครงการเมกะโปรเจกต์ที่คาดว่าจะเริ่มมีเงินลงทุนเข้าสู่ระบบในปี 2556 รวมถึงการลงทุนของภาคเอกชนที่เพิ่มมากขึ้น และการกระตุ้นการบริโภคของประชาชนภายในประเทศ นับเป็นการเร่งการลงทุนเพื่อขยายการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2556 ส่งผลให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระดับภูมิภาคจากการกระจายความเจริญแบบสังคมเมืองไปสู่ชนบท (Urbanization) จากความมั่งคั่งและกำลังซื้อของประชาชนที่เพิ่มขึ้นตามมา

สำหรับเป้าหมาย SET Index สำนักวิจัยหลายแห่งได้ปรับเป้าหมาย SET Index ในปี 2556 ไว้ที่ระดับ 1,420-1,450 จุด ซึ่งมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีก 10-12% รวมทั้งการที่รัฐบาลลดภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 20% ในปี 56 ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ปี 2556 จะเติบโตที่ระดับ 13-16% จากสัดส่วน P/E ของไทยที่ 12 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสัดส่วน forward P/E ในภูมิภาคที่ 13-14 เท่า

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า บลจ.ไอเอ็นจีเตรียมเสนอขายกองทุนใหม่กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10% (7) - ING Thai Trigger 10% Fund (7) ซึ่งเป็นกองทุนใหม่ล่าสุดในกลุ่มอีควิตี้ ทริกเกอร์ ที่ลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี และมีแนวโน้มการเติบโตสูง และเน้นการใช้เทคนิคเรื่องการเข้า-ออกตลาดในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนตามเป้าหมาย โดยเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิ (NAV) เพิ่มขึ้นจากราคาเสนอขายครั้งแรกที่ 10 บาทไปอยู่ที่ 11 บาทต่อหน่วย ณ วันใดวันหนึ่ง กองทุนก็จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด พร้อมเลิกกองทุน


กำลังโหลดความคิดเห็น