xs
xsm
sm
md
lg

ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลมอง QE3 ดันหุ้นขยับราคาทองเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจิดพันธุ์ นิธยายน
บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลแนะจับตาหุ้น และราคาทองคำที่เริ่มขยับขึ้นตามมาตรการ QE3 มองหุ้นไทยโดยเฉพาะกลุ่มสื่อสาร ค้าปลีก รถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์มาแรง ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวน้อยมาก

นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า ผลตอบแทนกองทุนหุ้นทริกเกอร์กองที่ 2 ของ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เข้าเป้า 8% เป็นที่เรียบร้อยแล้วในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสุทธิประมาณ 8.7% ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวมาจากผลตอบแทน 2 ส่วน คือการคัดเลือกหุ้นรายตัว และผลบวกจากมาตรการ QE3 ของสหรัฐฯ

สำหรับการคัดเลือกหุ้นรายตัวนั้น บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลได้เน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของการบริโภคในประเทศ อย่างกลุ่มสื่อสาร ค้าปลีก รถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากบริษัทมองว่าหุ้นกลุ่มเหล่านี้จะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกค่อนข้างน้อย ขณะที่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับภาคส่งออกอาจได้รับผลกระทบบ้างในช่วงนี้เนื่องจากการปรับตัวแข็งค่าของเงินบาท

ขณะที่มาตรการ QE3 ของสหรัฐฯ นั้น นายเจษฎามองว่ามาตรการดังกล่าวถือว่าดีกว่าที่ตลาดคาด โดยครั้งนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เลือกที่จะกระตุ้นภาคอสังหาฯ โดยตรงผ่านการซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อภาคอสังหาฯ เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Mortgage Back Securities) ซึ่งน่าจะทำให้ภาคอสังหาฯ ของอเมริกาปรับตัวดีขึ้นในระยะถัดจากนี้ ซึ่งภาคอสังหาฯ นี้เองที่เป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้ความมั่งคั่ง หรือเงินในกระเป๋าของคนอเมริกันมีมากขึ้น และสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภคในการเพิ่มอัตราการจับจ่ายใช้สอยในที่สุด ที่สำคัญคือ ในรอบนี้ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศใช้ยาแรง โดยระบุชัดว่าจะกระตุ้นด้วยเม็ดเงินประมาณ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนไปเรื่อยๆ จนกว่าปัญหาเรื่องการว่างงานจะฟื้น ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางที่แตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่าง QE1 และ QE2 ที่มีการประกาศวงเงินที่ชัดเจน ผลของ QE3 นอกจากจะดีต่อตลาดหุ้นทั่วโลกจากสภาพคล่องในระบบที่เพิ่มขึ้นมากแล้ว ยังเป็นผลบวกต่อโภคภัณฑ์อย่างทองคำ น้ำมัน และราคาสินค้าเกษตรอีกด้วย

“หากดูจากบริบททางการเมืองแล้วไม่แปลกใจเลยที่ใช้ยาแรงขนาดนี้ เนื่องจากสหรัฐอเมริกาจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และค่อนข้างชัดเจนว่าทางพรรค Republican ซึ่งเป็นคู่แข่งกับโอบามาค่อนข้างจะไม่ชอบใจแนวทางของเบอร์นันเก้มาโดยตลอด ล่าสุดมิท รอมนีย์ ผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีก็เพิ่งให้สัมภาษณ์ไม่เห็นด้วยกับมาตรการ QE3 โดยมองว่าไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางเฟดก็ได้ยืนยันอยู่เสมอว่าการดำเนินมาตรการใดๆ นั้นมองจากบริบททางเศรษฐกิจ โดยปราศจากการเมืองมาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด สำหรับในระยะยาวผลของนโยบายพิมพ์เงินเหล่านี้น่าจะส่งผลกระทบให้เกิดเงินเฟ้ออย่างแน่นอน แต่ยังไม่ใช่ปัจจัยต้องกังวลในเวลานี้”

นายเจิดพันธุ์ นิธยายน ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและการขาย บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า บริษัทจัดการประสบความสำเร็จในการบริหารกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8 เปอร์เซ็นต์ 2 ซึ่งเป็นกองทาร์เกตกองที่ 2 ที่ บลจ.บริหารได้เข้าเป้าก่อนเวลาที่กำหนด ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จตามแผนการลงทุนที่ได้วางไว้ โดยทำกำไรมากกว่า 8% ให้แก่นักลงทุนได้ก่อนครบอายุ 8 เดือน

ทั้งนี้ ถือว่าเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์การบริหารกองหุ้นของทีมตราสารทุนและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ซึ่งกลยุทธ์การบริหารกองทริกเกอร์ของ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลมีลักษณะคล้ายกันกับกองทุนตราสารทุนอื่นๆ ของบริษัท เช่น กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เดลี่ สมาร์ท ตราสารทุน (CIMB-PRINCIPAL EQUITY) กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ไลฟ์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (CIMB-PRINCIPAL EQRMF) และกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ไลฟ์ หุ้นระยะยาว (CIMB-PRINCIPAL LTF) ซึ่งบริษัทจัดการใช้การคัดเลือกหุ้นเป็นรายตัว และทำการเยี่ยมพบปะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียนเพื่อเข้าใจถึงกลยุทธ์ระยะสั้นและระยะยาวของแต่ละบริษัท และกำหนดมุมมองต่อผลประกอบการของบริษัทในอนาคต โดยทีมผู้จัดการกองทุนของบริษัทจัดการจะประชุมร่วมกับทีมผู้จัดการกองทุนระดับภูมิภาคเป็นรายสัปดาห์เพื่อกำหนดกลยุทธ์การลงทุนร่วมกัน โดยทีมงานผู้จัดการกองทุนของกลุ่มซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลทั้งหมดมีรวมกันกว่า 50 ท่าน
กำลังโหลดความคิดเห็น