บลจ.ไอเอ็นจีปลื้ม กองทุน ทริกเกอร์ 10% (6) ทำผลตอบแทนถึงเป้าเป็นกองที่ 2 ในเวลา 3 เดือน 19 วัน เตรียมเปิดขายกองทุนทริกเกอร์ 10% (7) ต่อเนื่อง มองหุ้นไทยสดใสหลัง กนง.ลดดอกเบี้ย ส่งผลดีต่อตลาดโดยตรง ขณะที่เงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง
นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจาก บลจ.ไอเอ็นจีได้เสนอขายกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10% (6) เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนผสมที่มีการกำหนดผลตอบแทนเป้าหมาย คือ มูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิ (NAV) เพิ่มขึ้นจากราคาเสนอขายครั้งแรกที่ 10 บาทไปอยู่ที่ 11.00 บาทต่อหน่วย ณ วันใดวันหนึ่ง กองทุนก็จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด พร้อมเลิกกองทุนภายใน 5 วันทำการ
ล่าสุดมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10% (6) สามารถเข้าถึงเป้าหมาย 11.00 บาทต่อหน่วยได้เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 11.0242 บาทต่อหน่วย คิดเป็นระยะเวลาลงทุน 3 เดือน 19 วัน ดังนั้น บลจ.ไอเอ็นจีจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนจากผู้ถือหน่วยทุกรายในวันที่ 24 ตุลาคม 2555 และจะนำเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนไปลงทุนในกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แคช แมเนจเม้นท์
“จนถึงขณะนี้กองทุนในกลุ่ม “อีควิตี้ ทริกเกอร์” ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งนอกจากปัจจัยสนับสนุนในเรื่องของทิศทางดัชนีราคาหุ้นของไทยที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาแล้ว ความสำเร็จส่วนหนึ่งยังมาจากการบริหารกองทุนในกลุ่ม “อีควิตี้ ทริกเกอร์” ที่เราใช้กลยุทธ์การจับจังหวะการลงทุนและ Stock Selection ทำให้เราประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการอีกครั้ง ขณะเดียวกันมีแผนที่จะเปิดขายกองทุนทริกเกอร์ 10% (7) ในช่วงวันที่ 29 ตุลาคม-5 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นในปีนี้ต่อเนื่องปีหน้ายังมีทิศทางที่ดี ทั้งปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตต่อเนื่อง” นายจุมพลกล่าว
ขณะที่กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลู โฟกัส อีควิตี้ ปันผล ซึ่งเปิดเสนอขายเมื่อเดือนกันยายน 2555 ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้กองทุนมีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเท่าตัว โดย ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2555 มูลค่าสินทรัพย์สุทธิอยู่ที่ 1,319.88 ล้านบาท เทียบกับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ วันจดทะเบียนกองทุน (7 กันยายน 2555) ที่ 765.73 ล้านบาท และกองทุนนี้ยังสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้อย่างน่าพอใจ โดย ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2555 มูลค่าหน่วยลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.7061 บาทต่อหน่วย
นายจุมพลยังกล่าวถึงตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ว่า บลจ.ไอเอ็นจียังเชื่อว่าทิศทางของตลาดหุ้นไทยยังคงสดใสต่อเนื่อง หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีมติลดอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) ระยะ 1 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 3.00% เหลือ 2.75% โดยตลาดหุ้นไทยได้ตอบสนองข่าวดังกล่าวในเชิงบวก
ทั้งนี้ เชื่อว่าแม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยลง แต่เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศก็จะยังคงไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะแม้ดอกเบี้ยนโยบายจะลดลง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่ต่ำมากเหมือนกับหลายๆ ประเทศ ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่ง และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายๆ ส่วน รวมถึงการที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ทั้งหมดเป็นปัจจัยที่เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังคงน่าลงทุน
