โดย วรวรรณ ธาราภูมิ
และทีมจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง
• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้นทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนเดือน ต.ค.ลดลงสู่ 45.8 แตะระดับต่ำสุดนับแต่ปี 2552 จาก 46.1 ในเดือน ก.ย. และยังคงต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังหดตัวต่อเนื่อง โดยที่บริษัทต่างๆ ยังลดพนักงานมาโดยตลอดกว่า 1 ปีแล้ว
• สัดส่วนหนี้สาธารณะของยูโรโซน 17 ประเทศในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 90% ของ GDP จาก 87.1% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนว่าวิกฤตหนี้กำลังเลวร้ายลงแม้หลายประเทศจะพยายามลดรายจ่ายก็ตาม
• ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเดือน ต.ค.ลดลงสู่ 100 จาก 101.4 ในเดือน ก.ย. ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 แสดงว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังชะลอตัว และมีแนวโน้มจะชะลอตัวรุนแรงในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ในยูโรโซนกำลังอ่อนแอลง
• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอิตาลีเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้นสู่ 86.4 จาก 86.2 ในเดือน ก.ย. บ่งชี้ว่าผู้บริโภคชาวอิตาลีมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับบรรยากาศเศรษฐกิจโดยทั่วไปเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่มีมุมมองลบมากขึ้นเกี่ยวกับอำนาจการใช้จ่ายในภาคครัวเรือน และคาดว่าบรรยากาศทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน อนาคต และฐานะทางการเงินส่วนบุคคลมีแนวโน้มจะย่ำแย่ลง
• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐฯ ในเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.3 จากระดับ 51.1 ในเดือน ก.ย. การขยายตัวยังเป็นไปแบบเชื่องช้า บ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงเผชิญกับความยากลำบากต่อไปในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมถึงราคาพลังงานและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตในเดือนนี้สูงขึ้น แต่แทบไม่มีการส่งผ่านต้นทุนดังกล่าวไปยังผู้บริโภคเลย ราคาขายโดยเฉลี่ยจึงปรับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
• ดัชนีราคาบ้านของสหรัฐฯ เดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก่อน ส่งสัญญาณว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยอัตราดอกเบี้ยจำนองที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์จากแผนการรับซื้อพันธบัตรของ FED ได้ช่วยหนุนการซื้อและการรีไฟแนนซ์บ้าน
• ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รายสัปดาห์สิ้นสุด ณ 21 ต.ค. ลดลงไปอยู่ที่ -19 จากระดับ -17 ในสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ และการฟื้นตัวเป็นไปอย่างเชื่องช้า และ 2 ดัชนีย่อยคือดัชนีการประเมินภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและดัชนีแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศปรับลดลง
• รมว.ทรัพยากรของออสเตรเลียเปิดเผยว่า รายได้จากการส่งออกแร่ธาตุและพลังงานในปี 2555-2556 มีสัดส่วน 60.5% ของยอดการส่งออกสินค้าและบริการทั้งหมด แต่คาดว่าในอีก 12 เดือนข้างหน้าการส่งออกมีแนวโน้มลดลงจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง แม้ว่าปริมาณการส่งออกจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีนเบื้องต้นในเดือน ต.ค.อยู่ที่ 49.1 จาก 47.9 ในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 จากคำสั่งซื้อใหม่ที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยผ่อนคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการชะลอตัว อย่างไรก็ตาม การที่ยังต่ำกว่า 50 ทำให้รัฐบาลจีนจำเป็นต้องผ่อนคลายนโยบายต่างๆ เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านการฟื้นตัว
• นิสสัน มอเตอร์ ของญี่ปุ่นกำลังพิจารณาจะลงทุนหลายหมื่นล้านเยนเพื่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตรถยนต์รายปีให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
• นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมไทยที่มีความโดดเด่นพร้อมจะแข่งขันใน AEC ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมภาคการเกษตร รวมทั้งยืนยันจะส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคทางด้านอาหารและลอจิสติกส์ เพื่อเชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมการผลิต ท่องเที่ยว กับขนส่ง และให้มีการเชื่ยมโยงหัวเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญเข้าด้วยกัน
• สรรพากรเตรียมหารือกับ รมว.คลังเรื่องแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนต่างๆ เพราะปัจจุบันมีรายการลดหย่อนมาก ทั้งนี้ จะมีการหารือในนโยบายสนับสนุนสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ซื้อ RMF-LTF ด้วย
• ก.พลังงานเปิดเผยว่า มีการใช้ก๊าซหุงต้ม LPG ใน 9 เดือนแรกปีนี้เพิ่มขึ้น 7% เฉลี่ย 6.05 แสนล้านตัน/เดือน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยภาคขนส่งมีการใช้เพิ่มขึ้นสูงสุด รองมาเป็นภาคครัวเรือน ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมีการใช้ลดลง
Equity Market
• SET Index ปิดที่ 1,295.00 จุด ลดลง 15.42 จุด หรือ 1.18% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37,959 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,574.20 ล้านบาท โดยดัชนีวันนี้มีการแกว่งตัวตลอดทั้งวัน และปรับลงแรงจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมากกว่าที่มีการคาดการณ์ รวมถึงตลาดหุ้นยุโรปยังมีความผันผวนจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
• ตลท.เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันน่าสนใจและน่าลงทุนที่สุดในเอเชียเนื่องจากมีอัตราเงินปันผลสูง มีมูลค่าซื้อขายต่อวันสูงขึ้น มีดัชนีที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีราคาหุ้นที่ยังไม่สูงมากนัก จึงเป็นปัจจัยบวกที่สวนทางกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในต่างประเทศที่ดัชนีลดลง 10-20% แต่ของไทยยังทรงตัวอยู่ในแดนบวกได้ แสดงว่ายังมีสภาพคล่องสูง
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลช่วงอายุ 5-7 ปีมีการเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.03% ถึง -0.02% ขณะที่ช่วงอายุอื่นมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในช่วง -0.02% ถึง 0.00% สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูล
Guru Corner
• Marc Faber “เอเชียมีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ เพราะไม่มีวัฒนธรรมยึดถือตัวตนแบบเดียวกับพวกประเทศพัฒนาแล้วทางตะวันตกเป็นกันมาก”
• Peter Lynch “จะใช้วิธีอะไรเลือกหุ้นหรือกองทุนหุ้นก็ตาม ความสำเร็จหรือความล้มเหลวมันขึ้นอยู่กับความอดทนที่เราจะวางอุเบกขาต่อข่าวดีร้ายที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และทำใจได้นานพอจนการลงทุนให้ดอกออกผล”
• Chaipat Ncm “ทุกอย่างในโลกมีทั้งข้อดีข้อเสียในตัวเอง หน้าที่ของเราไม่ใช่ตัดสินว่าดีหรือไม่ดีเพียงเพราะทัศนคติและมุมมองของเรา แต่เราควรเปิดใจเรียนรู้และนำข้อดีมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์”