บลจ.กรุงไทยมองตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวต่อเนื่อง หลังสภาพคล่องล้นระบบ ประกอบกับทั่วโลกอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ คาดเม็ดเงินจากการลงทุน LTF-RMF หนุนหุ้นเพิ่มอีก 20,000-30,000 ล้านบาท ล่าสุดเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุน KTLF และกองทุน TLGF ในอัตราละ 1 บาท และ 0.1646 บาทตามลำดับ
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับสภาวะการลงทุนในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2555 บริษัทคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index ) ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปได้ เนื่องจากสภาพคล่องในระบบการเงินที่ยังมีอยู่สูงจากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำทั่วโลก ประกอบกับความต้องการซื้อของนักลงทุนในประเทศในช่วงปลายปี จากกองทุนประเภท RMF และ LTF โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาทเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นในช่วง 2 เดือนสุดท้าย แม้ว่าปัญหาวิกฤตหนี้ยูโรโซนจะยังเป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิดก็ตาม แต่ด้วยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและฐานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่งของไทย และของประเทศในแถบภูมิภาคอาเซียน น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนให้ไหลเข้ามาลงทุนในภูมิภาคได้อย่างต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์น่าจะสามารถยืนได้ในระดับประมาณ 1,300-1,340 จุด ในช่วงสิ้นปีนี้
โดยบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว (KTLF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท (TLGF) พร้อมลดทุนจดทะเบียน โดยกองทุน KTLF จะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนในวันที่ 24 ตุลาคม 2555 และทำการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 31 ตุลาคม 2555 ในอัตรา 1.00 บาทต่อหน่วย นับเป็นการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 2/2555 ที่ผ่านมา กองทุนได้มีการจ่ายเงินปันผลในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ปีนี้บริษัทจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 1.50 บาทต่อหน่วย
ส่วนกองทุน TLGF ประกาศจ่ายเงินปันผลและลดเงินทุนจดทะเบียนครั้งที่ 2 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2555-วันที่ 31 สิงหาคม 2555 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.1646 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 พร้อมลดเงินทุนจดทะเบียนในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.0200 บาท โดยจะจ่ายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 ทั้งนี้ หลังจากลดทุนจดทะเบียนของกองทุน มูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วยลงทุนคงเหลือเท่ากับ 10.3640 บาทต่อหน่วย และกองทุนกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนจากการลดเงินทุนจดทะเบียนในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2555
ขณะเดียวกัน ในสัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 28 (KTFF28 ) ในวันที่ 24-31 ตุลาคม อายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยกองทุนจะเน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝากประจำ Standard Chartered Bank, First Gulf Bank, ECP ออกโดย VTB ECP Finance Ltd. ค้ำประกันโดย JSC, MTN ออกโดย Banco Santander Brazil S.A., MTN ออกโดย Banco Bradesco S.A. โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.50% ต่อปี นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดซื้อขายรอบใหม่กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือน คุ้มครองเงินต้น 2 (KTFIX3M2) ประเภท Roll Over ถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2555 อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ และเงินฝากประจำธนาคารธนชาต และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.50% ต่อปี