กองทุนอสังหาฯ เทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท เตรียมเพิ่มทุนอีก 7,545 ล้านบาท หรือไม่เกิน 650 ล้านหน่วย เก็บศูนย์การค้าเทสโก้ โลตัส 5 สาขา ได้แก่ ภูเก็ต ศาลายา นครศรีธรรมราช รังสิต-นครนายก และบางปู เข้าพอร์ต พร้อมให้สิทธิในการจองแก่นักลงทุนเดิมอีกด้วย
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท หรือ TLGF เปิดเผยว่า ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 650 ล้านหน่วย และระดมทุนเพิ่มไม่เกิน 7,545 ล้านบาท จากการประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2555 หลังจากที่คณะกรรมการลงทุนได้อนุมัติแผนลงทุนและเพิ่มทุนก่อนหน้านี้ โดยรูปแบบของการเพิ่มทุนครั้งนี้จะเป็นการเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมตามสัดส่วนการถือหน่วยลงทุน (Public Offering) ทั้งนี้ กองทุนรวมจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนในศูนย์การค้าเทสโก้ โลตัส คุณภาพสูงเพิ่มอีก 5 แห่ง ซึ่งจะทำให้กองทุน TLGF มีศูนย์การค้ารวมทั้งสิ้น 22 แห่ง
โดยการเสนอขายหน่วยลงทุนในครั้งนี้จะเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมของกองทุนที่มีชื่ออยู่ในสมุดจดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2555 โดยวันสุดท้ายที่นักลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุน TLGF ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและได้รับสิทธิในการจองซื้อคือวันที่ 31 ตุลาคม 2555 ในกรณีที่มีหน่วยลงทุนเหลือจากการจองซื้อของผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม บริษัทจัดการจะพิจารณาจัดสรรหน่วยลงทุนที่เหลือให้นักลงทุนรายอื่นๆ ทั้งนี้ ราคาเสนอขายสุดท้ายจะกำหนดจากวิธีการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์จากนักลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) และจะมีการประกาศให้ทราบต่อไป
สำหรับกองทุนรวม TLGF มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่จดทะเบียนจัดตั้งกองทุนรวมในเดือนมีนาคมเป็นต้นมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อศักยภาพและการเติบโตของกองทุนรวมฯ การลงทุนเพิ่มในอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของกองทุนรวมฯ อย่างต่อเนื่อง และจะทำให้มีสินทรัพย์ที่มีคุณภาพสูงกระจายอยู่ทั่วประเทศมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
โดยศูนย์การค้าทั้ง 5 แห่งของเทสโก้ โลตัส ที่กองทุนรวมฯ จะลงทุนเพิ่มเติม ได้แก่ สาขาภูเก็ต สาขาศาลายา สาขานครศรีธรรมราช สาขารังสิต-นครนายก และสาขาบางปู โดยศูนย์การค้าทั้ง 5 แห่งใหม่ล้วนมีผลประกอบการที่ดี มีประวัติการดำเนินงานที่ดี และสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้แก่กองทุนรวมฯ ในทันที ทั้งนี้ การลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้คาดว่าเงินปันผลต่อหน่วยที่ผู้ถือหน่วยลงทุนปัจจุบันจะได้รับจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ราคาซื้อศูนย์การค้าแต่ละแห่งที่กองทุนจะลงทุนเพิ่มเติมจะไม่เกินร้อยละ 110 ของราคาประเมินต่ำสุดที่ได้จากผู้ประเมินราคาอิสระ 2 ราย
ทางด้านนายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชัน ซิสเทม จำกัด (เทสโก้ โลตัส) กล่าวว่า กองทุนรวม TLGF เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของเทสโก้ โลตัสซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย การลงทุนเพิ่มเติมของกองทุนในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้มีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับกองทุนรวม TLGF และเทสโก้ โลตัส โดยรายได้ที่เทสโก้ โลตัส จะได้รับจากการเสนอขายทรัพย์สินให้กองทุนรวม TLGF จะนำมาลงทุนในธุรกิจของเทสโก้ โลตัส เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ในการชอปปิ้งที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปสำหรับลูกค้าของเรา