xs
xsm
sm
md
lg

ให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


Design Your Life by Mutual Fund

โดย คุณต่อ อินทวิวัฒน์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด

หากใครรู้จัก “ออม” ก่อน ก็จะมีสิทธิ์ “รวยก่อนเร็วกว่า” ยิ่งถ้ารู้จักออมตั้งแต่อายุยังน้อยด้วยแล้ว ยิ่งมีโอกาสมั่งคั่งมากขึ้น เนื่องจากมีเวลาให้เงินของท่านทำงานนานขึ้น และโดยปกติผู้ที่อายุน้อยกว่าจะสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้สูงกว่า จึงมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตามทฤษฎี “High Risk High Return”

หลายท่านที่มีการออมโดยการฝากเงินกับธนาคารเพียงอย่างเดียวนั้นจะเริ่มรู้สึกได้ว่าตัวเลขดอกเบี้ยเงินฝากวิ่งไม่ทันอัตราเงินเฟ้อสักที และระยะหลังนี้มักจะได้ยินคนพูดกันถึงกำไรที่ได้จากการลงทุนในตลาดหุ้นเป็นจำนวนมากๆ ก็เกิดความสนใจอยากซื้อหุ้นแต่ไม่มีความรู้ความชำนาญ ความกลัวจึงมีมากกว่าความกล้า และที่สำคัญไม่อยากเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ จึงเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า “แล้วจะเริ่มต้นลงทุนอย่างไรดีล่ะ”

คำตอบสำหรับก้าวแรกของการลงทุนก็คือ “ให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม” น่าจะดีที่สุด ท่านอาจลองจัดสรรเงินมาลงทุนผ่านกองทุนรวมซึ่งมีให้เลือกหลายรูปแบบในปัจจุบัน และที่สำคัญ ก่อนการลงทุนในกองทุนรวมนั้น ทางบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จะช่วยประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ตามปัจจัยความเสี่ยงของแต่ละบุคคล และให้คำปรึกษาเพื่อให้การลงทุนเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงและตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ลงทุนมากที่สุด นอกจากนี้ กองทุนรวมส่วนใหญ่จะมีผู้จัดการกองทุนเฝ้าติดตามบริหารการลงทุนแทนท่านอย่างใกล้ชิด และยังช่วยเปิดโอกาสให้ท่านได้ลงทุนในต่างประเทศได้ ซึ่งหากท่านต้องการลงทุนด้วยตัวเองอาจทำได้ยากหรือมีความยุ่งยากในการดำเนินการ

เมื่อถามต่อว่า “แล้วจะจัดสรรเงินลงทุนอย่างไรดี?” สำหรับคนที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีนั้น เงินลงทุนส่วนแรกอยากให้นึกถึงกองทุนรวม LTF หรือ RMF ก่อนเสมอ เพราะนอกจากท่านจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว ผลประโยชน์ที่ท่านได้รับอย่างแน่นอน คือช่วยทำให้ท่านประหยัดภาษี ซึ่งเงินภาษีที่ท่านจ่ายน้อยลงนั้นยังช่วยให้ท่านมีเงินออมมากขึ้นอีกด้วย บางท่านเมื่อได้ยินเงื่อนไขการลงทุนของ 2 กองทุนนี้แล้วถึงกับพูดว่า “โอ้โฮ! ลงทุนนานขนาดนี้ ไม่เอาด้วยหรอก” แต่เชื่อเถอะว่าหากได้เริ่มลงทุนแล้ว ท่านจะไม่ลืมที่จะต้องลงทุนทุกปีอีกเลย เพราะจะเห็นถึงความคุ้มค่าแก่การรอคอย ท่านจะรู้สึกว่าการลงทุนในกองทุน LTF ครบ 5 ปีปฏิทินแล้วหรือ เวลามันช่างผ่านไปเร็วมากจริงๆ

เชื่อว่าหลายท่านมักจะลงทุนแต่กองทุน LTF โดยไม่ใช้สิทธิการลงทุนในกองทุน RMF เพราะคิดว่าการลงทุนในกองทุน RMF สร้างภาระผูกพันให้ท่านนานเหลือเกินจากการที่ต้องลงทุนติดต่อกันทุกปีจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ โดยเฉพาะคนที่อายุยังน้อยหรือเพิ่งเริ่มทำงาน อายุแค่ 20 กว่าๆ จะต้องลงทุนอีก 30 ปีเลยหรือเนี่ย! แต่อย่าลืมว่าวันหนึ่งท่านก็ต้องถึงวัยเกษียณและจะมีรายได้น้อยลงหรือไม่มีรายได้เลย ดังนั้น หากท่านมีความตั้งใจที่จะเก็บเงินส่วนหนึ่งฝากธนาคารทุกปีอยู่แล้วเพื่อเอาไว้ใช้ยามเกษียณ ขอให้ท่านลองเปลี่ยนวิธีเก็บเงินส่วนนี้โดยการลงทุนในกองทุน RMF แทน อย่างน้อยที่สุดท่านจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการนำเงินลงทุนไปหักลดหย่อนภาษี ซึ่งช่วยให้เสียภาษีน้อยลงแทนที่จะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายของดอกเบี้ยที่ได้รับอีกต่างหาก ในปัจจุบันกองทุนรวม RMF มีหลากหลายนโยบายการลงทุนให้เลือกมากมาย ทั้งลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นไทย หรือแม้แต่ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ หรือกองทุนทองคำ ซึ่งทำให้ท่านยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอีกด้วย

สำหรับท่านที่รับความเสี่ยงได้น้อยและยอมรับผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก โดยอยากจะลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นหลัก ท่านอาจเลือกลงทุนในกองทุน RMF ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ แต่ถ้าท่านต้องการมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ก็อาจจะเลือกลงทุนในกองทุน RMF ที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นด้วย สำหรับท่านที่กล้าๆ กลัวๆ กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ เฟล็กซิเบิ้ลฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (MS-FLEX RMF) ของ บลจ.แมนูไลฟ์ อาจเป็นตัวช่วยของท่านได้ เนื่องจากเรามีแนวทางในการบริหารกองทุนนี้ โดยจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 50% แต่ในภาวะการลงทุนที่ไม่ค่อยดีนัก กองทุนอาจลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเหลือ 0-20% ดังนั้น กองทุน MS-FLEX RMF จึงมีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุน RMF ประเภทตราสารหนี้ และก็มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่ากองทุน RMF ประเภทหุ้น ทั้งนี้ เหลือเวลาอีกประมาณ 2 เดือนครึ่งเท่านั้นสำหรับการลงทุนใน 2 กองทุนนี้ เพื่อนำไปหักลดหย่อนเงินได้สำหรับปีภาษี 2555...อย่าพลาดกันเชียว! (โปรดศึกษาเงื่อนไขการลงทุนของกองทุนรวม LTF หรือ RMF โดยละเอียดก่อนการตัดสินใจลงทุน)

หลังจากลงทุนในกองทุน LTF และ RMF แล้ว หากท่านยังมีเงินเหลือที่จะลงทุนเพิ่ม ท่านควรพิจารณาก่อนว่าเงินส่วนนี้สามารถลงทุนได้ในระยะเวลานานเท่าไหร่และยอมรับความเสี่ยงและความผันผวนได้สูงแค่ไหน แล้วจึงเลือกลงทุนในกองทุนประเภทต่างๆ ตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด ตามที่ได้เกริ่นไว้เมื่อตอนต้น คนที่มีอายุน้อยมักจะรับความเสี่ยงได้มาก แต่ก็ไม่ควรลืมหลักการลงทุนที่สำคัญ คือ การกระจายความเสี่ยง ซึ่งในปัจจุบันท่านสามารถกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทผ่านทางกองทุนรวม ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ และน้ำมัน แม้แต่กองทุนหุ้นก็ยังมีให้เลือกทั้งกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทยหรือหุ้นในตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นต่างประเทศที่มีความน่าสนใจลงทุนและน่าจะมีติดพอร์ตการลงทุนบ้างในเวลานี้ก็คงไม่พ้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นแหล่งรวมของหุ้นของบริษัทชั้นนำที่มีคุณภาพซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจำนวนมาก และตลาดหุ้นแถบภูมิภาคเอเชีย โดยทั้งสองตลาดนี้มีแนวโน้มที่น่าจะดีขึ้นจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ QE3

ทั้งนี้ บลจ.แมนูไลฟ์ก็มี กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อเมริกัน โกรท เอฟไอเอฟ (MS-AMERICAN) และกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ เอเชียน สมอลแคป อิควิตี้ เอฟไอเอฟ (MS-ASIAN SM) เป็นทางเลือกของการลงทุนใน 2 ตลาดดังกล่าวให้แก่ท่านด้วยเช่นกัน ทั้งสองกองทุนนี้มีการบริหารกองทุนแบบ Actively Managed ที่เน้นการลงทุนแบบ Bottom-up ซึ่งเน้นการเลือกลงทุนที่ตัวหุ้นเป็นหลัก โดยจะค้นหาหุ้นของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีแนวโน้มการเติบโต หรือมีความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว แต่อาจเป็นหุ้นที่ถูกมองข้ามในปัจจุบัน หรืออาจถูกกระทบจากภาวะการลงทุนที่อ่อนแอหรือปํจจัยลบบางประการในระยะสั้น ทำให้ราคาหุ้นยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานซึ่งเป็นจังหวะในการเข้าลงทุนของกองทุน เราเชื่อว่าวิธีการลงทุนดังกล่าวจะทำให้กองทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีและเหนือกว่าในระยะยาวได้ แม้ว่าจะอยู่ในภาวะการลงทุนที่มีความผันผวนก็ตาม โดยอาจจะดูได้จากผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ เอเชียน สมอลแคป อิควิตี้ เอฟไอเอฟ (MS-ASIAN SM) ที่เน้นการกระจายการลงทุนในกลุ่มหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดขนาดเล็กในภูมิภาคเอเชียและ/หรือแปซิฟิก ผ่านกองทุน Manulife Global Fund-Asian Small Cap Equity Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและเหนือกว่าผลตอบแทนของ MSCI AC Asia Pacific ex JP Small Cap Index (Benchmark) ค่อนข้างมาก อันเป็นผลมาจากแนวทางการบริหารกองทุนด้วยวิธีที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ บลจ.แมนูไลฟ์ โทร. 0-2354-1001 หรือ 0-2246-7650 กด 2 หรือ www.manulife-asset.co.th

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและคู่มือภาษีก่อนการตัดสินใจลงทุน การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้เกิดกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และอาจได้รับเงินคืนสูงกว่าหรือต่ำกว่ามูลค่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้


กำลังโหลดความคิดเห็น