บลจ.ยูโอบีเตรียมจ่ายปันผล “ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ฟันด์ ชนิดจ่ายเงินปันผล” (UOBSG-D) ระบุแม้ตลาดผันผวนแต่ยังสร้างผลตอบแทนได้ดี ผู้ถือหน่วยเตรียมรับเงินปันผลวันที่ 14 ก.ย. 55 พร้อมแนะทยอยลงทุนเพื่อลดความผันผวนของราคาทองคำ
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ฟันด์ ชนิดจ่ายเงินปันผล (UOBSG-D) เป็นอีกหนึ่งกองทุนรวมทองคำของเราที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุน แม้ราคาทองคำจะมีความผันผวน แต่ด้วยปัจจัยสนับสนุนและการบริหารงานของกองทุนหลัก SPDR Gold Trust ที่เน้นลงทุนในทองคำแท่งเพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำในตลาดโลก หลังจากหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกองทุนแล้ว จึงส่งผลให้กองทุนมีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเกณฑ์ที่สามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยได้
ทั้งนี้ ตลาดทองคำตั้งแต่ช่วงต้นปี 2555 เป็นต้นมาแม้จะมีความผันผวนแต่ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน และยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากธนาคารกลางทั่วโลกที่ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำมากขึ้น ทำให้ปริมาณความต้องการทองคำเพิ่มมากขึ้นด้วย อีกทั้งการลงทุนในทองคำมีแนวโน้มที่จะสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนได้มากกว่าอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงปัจจุบันค่าเงินสกุลหลักมีแนวโน้มด้อยค่าลง จึงส่งผลให้การลงทุนในทองคำยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินชั้นนำได้คาดการณ์ราคาทองคำโลกในสิ้นปีนี้อาจจะสูงถึง 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
“ดังนั้น จากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าวทำให้กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ฟันด์ ชนิดจ่ายเงินปันผล (UOBSG-D) มีผลการดำเนินงานระหว่าง 31 สิงหาคม 2554-31 กรกฏาคม 2555 เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สามารถจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ ซึ่งจะดำเนินการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน และหยุดทำการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนชั่วคราวในวันที่ 24 สิงหาคม 2555 เพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 กันยายน 2555” นายวนากล่าว
สำหรับท่านที่ต้องการลงทุนเพิ่มเติม ทาง บลจ.ยูโอบียังคงมีมุมมองที่ดีต่อการลงทุนในทองคำ ซึ่งนักลงทุนสามารถทยอยลงทุนได้เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนและกระจายพอร์ตการลงทุนของท่านด้วย ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
นายวนายังกล่าวถึงตลาดหุ้นไทยด้วยว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงปรับตัวขึ้นได้เป็น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน และสามารถยืนเหนือ 1,220 จุดได้ ทั้งๆ ที่ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ที่สำคัญช่วยหนุนตลาด แรงซื้อของนักลงทุนจะเก็งกำไรเป็นรายหลักทรัพย์ที่มีการประกาศผลประกอบการของไตรมาสที่ 2/2555 และการคาดการณ์เงินปันผลรอบครึ่งปีแรก ตลาดยังคงมีความหวังเชิงบวกต่อการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรป ซึ่งยังคงมีภาพรวมที่ยังคงอ่อนแอและน่าจะส่งผลกดดันตลาดได้เป็นระยะๆ อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองว่าตลาดได้ซึมซับข้อมูลดังกล่าวไว้ในราคาปัจจุบันแล้ว