3 บลจ. นำโดยกรุงไทย ฟินันซ่า และกรุงศรี ยกขบวนเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ลงทุนไม่เกิน 1 ปี ให้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 3.10% ต่อปี เปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 28 สิงหาคม 2555
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาวะการลงทุนในตราสารหนี้ช่วงนี้ตลาดตราสารหนี้ไทยมีแรงขายทำกำไรในตราสารระยะกลางถึงยาว ทำให้อัตราผลตอบแทนปรับเพิ่มขึ้น 7-15 basis points ขณะที่ตราสารภาครัฐระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี ทรงตัว ซื้อขายกันที่ระดับ 2.85-3.03% ต่อปี โดยมีปัจจัยจากตลาดการเงินระหว่างประเทศที่ประเมินว่าคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรปจะมีการเข้าซื้อพันธบัตรภาครัฐของกลุ่มประเทศยุโรปที่มีปัญหาเศรษฐกิจเพิ่มเติม และล่าสุดผู้นำเยอรมนีสนับสนุนการดำรงอยู่ของกลุ่มประชาคมยุโรป ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่ทยอยประกาศมีทิศทางที่ดีขึ้น และดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จึงทำให้นักลงทุนมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น
ส่วนตลาดอัตราแลกเปลี่ยนมีการเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินยูโร และค่าเงินบาท โดยในประเทศให้จับตาดูตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ และตัวเลข GDP ในไตรมาส 2/2555 ซึ่งจะประกาศในสัปดาห์นี้ว่าจะมีทิศทางชะลอตัวเช่นเดียวกับประเทศอื่นในภูมิภาคหรือไม่ เชื่อว่าจะมีผลต่อค่าเงินบาทและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศ สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนสวอปข้ามสกุลเงินบาทและเงินตราต่างประเทศในรอบสัปดาห์ทรงตัวเช่นกัน จึงทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศเมื่อแปลงเป็นสกุลเงินบาทหลังปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนค่อนข้างทรงตัว ดังนั้น การลงทุนในช่วงเวลานี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะล็อกผลตอบแทนไว้
โดย บลจ.กรุงไทยเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 50 ( KTSUPB 50) เสนอขายระหว่างวันที่ 22-28 สิงหาคม 2555 อายุ 6 เดือน มูลค่า 5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย เงินฝากประจำ The Commercial bank of Qatar, เงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank, เงินฝากประจำ Bank of China สาขามาเก๊า และเงินฝาก/ตราสารการเงินระยะสั้นธนาคารพาณิชย์ไทย/ตราสารการเงินภาครัฐไทย ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อปี โดยเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
ทางด้านนายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด กล่าวว่า กนง.น่าจะลดดอกเบี้ยในการประชุมช่วงที่เหลือของปีนี้ เมื่อดูจากผลการประชุมล่าสุดของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของ ธปท.ที่ไม่เป็นเอกฉันท์ ดังนั้น การลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบัน กล่าวคือสูงกว่า 3% ขึ้นไปจะสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ลงทุน เมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้มของดอกเบี้ยที่จะปรับลงในอนาคต กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส โรล โอเวอร์ 3เดือน4 (FAM FIPR3M4) จะเปิดเสนอขายครั้งต่อไปตั้งแต่วันที่ 21-27 สิงหาคม 2555 นี้ ด้วยประมาณการผลตอบแทนที่ 3.17% ต่อปี โดยสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท นักลงทุนสามารถใช้ช่องทางการลงทุนใหม่ล่าสุดของบริษัทโดยซื้อกองทุนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต skype ได้ที่ศูนย์บริการเคทีซี ทัช 14 สาขา
ส่วนนายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M33 (KFFIX6M33) อายุโครงการประมาณ 6 เดือน เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐไทย สัดส่วนการลงทุน 26% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 6% ตั๋วแลกเงินออกโดย บ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 24% เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% และเงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 24 %
โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.15% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.15% ต่อปี เสนอขายระหว่างวันที่ 21-27 ส.ค. 55 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท