บลจ.กรุงศรี ปลื้ม 6 เดือนแรกของปีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเติบโต 20% พร้อมลุยออกกองทุนหลากหลายตอบโจทย์การลงทุน ล่าสุดตั้งเป้าไต่ระดับมาร์เก็ตแชร์จากที่ 8 เป็นที่ 5 ของอุตสหกรรมกองทุนรวม
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของบริษัทครึ่งปีแรกนั้นบลจ.มี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารหรือ AUM ประมาณ 124,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 กว่า 20,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตประมาณ 20%
สำหรับธุรกิจกองทุนรวมของบลจ.นั้นมีการเติบโตจากสิ้นปี 2554 มีอัตราเติบโตสูงถึง 28% มี AUM อยู่ที่ 85,064 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าอุตสหกรรมกองทุนรวมที่มีการเติบโตประมาณ 13.51% ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีมาบลจ.ได้เสนอขายกองทุนใหม่จำนวน 36 กองทุน แบ่งออกเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ 31 กองทุน กองทุนทาร์เก็ตฟันด์ 1 กองทุน และกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) 2 กองทุน และกองทุนรวมอื่นอีก 2 กองทุน
ในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลนั้นมีการเติบโตประมาณ 13% มีAUM อยู่ที่ 23,710 ล้านบาท และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเติบโตประมาณ 4% มี AUM อยู่ที่ 18,826 ล้านบาท โดยแนวโน้มของสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้เปลี่ยนมาเลือกนโยบายการลงทุนเอง หรือ Employee'Choises ใน Mastar Fund ส่งผลให้มีเงินลงทุนผ่านไปยังกองทุนรวมอีกต่อหนึ่งเช่นกัน
ทั้งนี้ในช่วงที่เหลือของปี 2555 บลจ.ยังคงเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ประเภทเทอมฟันด์ต่อเนื่องในทุกสัปดาห์แล้ว เรายังมีเเผนที่จะออกกองทุนใหม่ๆที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนอีกหลายกองทุนเช่นกัน นอกจากนี้เราจะเน้นการขายผ่านแบงก์กรุงศรีฯเป็นหลัก โดยสัดส่วนการขายผ่านเเบงก์แม่นั้นเพิ่มขึ้นเป็น 37% ในปัจจุบัน
"โดยเราตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดในอุตหสกรรมกองทุนให้ไต่จากอันดับที่ 8 มาอยู่อันดับที่ 5ให้ได้เช่นเดียวกับแบงก์กรุงศรีที่มีส่วนแบ่งการตลาดในอุตสหกรรมในดับที่ 5 เช่นกัน ส่วนครี่งปีหลังเราประเมินว่าจะมีเงินไหลเข้ามาเพิ่มเติมจากกองทุน LTF-RMF โดยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน LTF-RMF ภายใต้การบริหารจัดการของเราสูงเป็นอันดับที่ 2ของอุตสหกรรมกองทุนเมื่อเทียบกับบลจ.ในเครือธนาคารพาณิชย์ โดย AUM ของกองทุน LTF เพิ่มขึ้นจากปี 54 ถึง 6.40% ส่วนกองทุน RMF มีมูลค่าAUM เพิ่มขึ้น 11.17% และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 4 ของอุตสหากรรม"
นายฉัตรพี กล่าวต่อว่า สำหรับจุดเด่นของบลจ.กรุงศรีที่ลูกค้าและนักลงทุนส่วนใหญ่มองนั้นคือ กองทุนหุ้น ซึ่งเป็นสไตล์การบริหารของบลจ.กรุงศรี ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่านโยบายการลงทุนนั้นเหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือวิธีการคัดเลือกหุ้น การให้น้ำหนักในการลงทุน รวมถึงการประเมินความเสี่ยงการลงทุนในแต่ละครั้ง
ขณะเดียวกันโปรดักส์ของเราก็ครอบคลุมทั้งหมดและตอบโจทย์นักลงทุนทุกประเภทอีกด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อโปรดักส์มากขึ้นการขยายทีมงานก็เป็นสิ่งสำคัญ การคัดเลือกทีมจัดการ รวมถึงบุคคลากรก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน
"ถ้าหากให้วาง positioning ของตัวเองคือบลจ.ที่มีโปรดักส์หลากหลายตอบสนองทุกโจทย์การลงทุนของลูกค้า ซึ่งหากนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนกับบลจ.กรุงศรีเเล้วเราจะเน้นให้ความรู้กับนักลงทุน เพื่อให้นักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในการขยายช่องทางการลงทุนมากขึ้น เช่นการจัดสัมนาที่น่าสนใจให้กับนักลงทุน "
