ในปัจจุบัน ปัญหาสำคัญประการหนึ่งสำหรับการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยที่นักลงทุนทั่วๆไป (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักลงทุนรายย่อย) มักจะต้องประสบพบเจอกันอยู่เสมอ คงหนีไม่พ้นเรื่องของราคาซื้อขายแบบ Real-Time นั่นเองครับ ทั้งนี้เป็นเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ในประเทศไทยต่างก็มีความคุ้นเคย และน่าจะมีความถนัดกับการซื้อขายหุ้นสามัญบนกระดานอิเล็คทรอนิค (Automatic Order Matching: AOM) เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งการซื้อขายด้วยวิธีดังกล่าวนั้น ช่วยทำให้นักลงทุนสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นทุกๆตัว ในทุกๆวินาทีที่มีการซื้อขายเกิดขึ้น หรือที่เรามักจะเรียกกันว่าราคาซื้อขายแบบ Real Time
แต่สำหรับการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทย (รวมถึงตลาดตราสารหนี้ในหลายๆประเทศ) นั้น เราใช้วิธีการซื้อขายที่แตกต่างไปจากระบบอัตโนมัติหรือระบบ AOM ของตลาดหุ้น ทั้งนี้ก็เนื่องจากลักษณะเฉพาะตัวของตราสารหนี้ที่ไม่ค่อยจะมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาซักเท่าไหร่ (เพราะราคาของตราสารหนี้มักจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยเป็นหลัก และโดยปกติแล้วอัตราดอกเบี้ยในแต่ละวันก็มักจะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนไหวมากนัก) ประกอบกับในช่วงที่ผ่านๆมา ผู้ที่เข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้มักจะเป็นกลุ่มของนักลงทุนที่มีเงินลงทุนขนาดใหญ่มากกว่า ดังนั้นจึงทำให้การซื้อขายบนระบบอัตโนมัติ อาจจะไม่ค่อยมีความเหมาะสมกับนักลงทุนกลุ่มนี้ซักเท่าใด เนื่องจากการซื้อขายด้วยปริมาณเงินคราวละมากๆ ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายย่อมอยากให้มีการเจรจาต่อรองกันก่อน เพื่อให้เกิดข้อเสนอทางด้านราคาที่สร้างความพอใจสูงสุดให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ด้วยเหตุนี้การซื้อขายในรูปแบบ Over the Counter หรือOTC จึงดูจะเหมาะสมกับตลาดตราสารหนี้มากกว่านั่นเองครับ
แต่ในปัจจุบันเราพบว่า นอกจากกลุ่มของนักลงทุนสถาบันที่มีเงินทุนขนาดใหญ่แล้ว นักลงทุนประเภทอื่นๆ เช่นกลุ่มของสหกรณ์ออมทรัพย์, กลุ่มของบริษัทเอกชนต่างๆ รวมไปถึงกลุ่มของนักลงทุนรายย่อยที่มีขนาดของเงินลงทุนค่อนข้างน้อย ก็เริ่มให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้กันมากขึ้น แต่ปัญหาอย่างหนึ่งของการซื้อขายในรูปแบบ OTC ก็คือการไม่มีราคาซื้อขายแบบ Real-Time ให้ใช้เป็นตัวอ้างอิง ซึ่งมีผลทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้มักจะถูกคิดราคาซื้อขายในระดับที่บิดเบือนไปจากราคาตลาดอยู่พอสมควร (มักจะถูกบวกราคาหากต้องการซื้อ และถูกกดราคาหากต้องการขาย) และเมื่อเป็นเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง ก็มีผลทำให้ความน่าสนใจที่จะลงทุนในตลาดตราสารหนี้ลดน้อยลงตามไปด้วยครับ และถึงแม้ว่าทางสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) จะคอยทำหน้าที่ในการเผยแพร่ราคาและอัตราผลตอบแทน (Price & Yield) ของตราสารหนี้ทุกๆตัว ในทุกๆสิ้นวันอยู่แล้วก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่าข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนกลุ่มใหม่ๆ ที่เริ่มจะเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้กันมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) จึงได้เริ่มพัฒนาระบบการแสดงข้อมูลราคาตราสารหนี้อ้างอิงระหว่างวัน (Intraday) ขึ้นมา โดยในขั้นต้นจะแสดงอัตราผลตอบแทน (Yield) ของพันธบัตรรัฐบาลจำนวน 6 ช่วงอายุคือ 1, 3, 6 เดือน และ 1, 2, 5 ปี ซึ่งสาเหตุที่เลือกแสดงเป็น Yield แทนที่จะแสดงเป็นราคา (Price) นั้นก็เนื่องจากโดยปกติของการซื้อขายตราสารหนี้ มักจะตกลงทำการซื้อขายกันที่ Yield เป็นหลักนั่นเอง ทั้งนี้ Yield ของพันธบัตรรัฐบาลทั้ง 6 ช่วงอายุดังกล่าวจะมีการ update ความเคลื่อนไหวในทุกๆ 1 ชั่วโมง (เปลี่ยนแปลงชั่วโมงละครั้ง) ซึ่งนักลงทุนสามารถติดตามข้อมูล Intraday Yield ได้ทางหน้าเวปไซต์ของ ThaiBMA หรือที่ http://www.thaibma.or.th/intradaymovement/IntradayMovement_en.aspxนอกจากนี้แล้ว ThaiBMA ยังได้รับความร่วมมือจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการช่วยเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวไว้ที่ http://marketdata.set.or.th/bnd/govbondintradayyield.do?locale=th_TH รวมถึงสื่อโทรทัศน์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกด้วย
ThaiBMA หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูล Intraday Yield จะช่วยอำนวยความสะดวกและช่วยให้นักลงทุนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดตราสารหนี้ได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถส่งคำถามและข้อเสนอแนะต่างๆเพิ่มเติมมาได้ที่ research@thaibma.or.th และหากว่าในอนาคต นักลงทุนหรือผู้ร่วมตลาดมีความต้องการ Intraday Yield สำหรับพันธบัตรรัฐบาลในช่วงอายุอื่นๆเพิ่มมากขึ้น หรือต้องการ update ความเคลื่อนไหวของ Yield ให้ถี่ขึ้น ThaiBMA ก็จะมีการพิจารณาปรับปรุงเพิ่มเติมต่อไปเรื่อยๆเช่นเดียวกันครับ
โดยสุชาติ ธนฐิติพันธ์
ฝ่ายวิจัยและพัฒนา
สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย