บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปลื้มยอดจองกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า "ควอลิตี้ เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์" ล้นหลาม นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจ เชื่อมั่นในคุณภาพของทรัพย์สินที่กองทุนเข้าไปลงทุน พร้อมเดินหน้าเตรียมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
นายสิทธิไชย มหาคุณ หัวหน้าสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ เปิดเสนอขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ควอลิตี้ เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ หรือ QHHR มูลค่าโครงการ 3,360 ล้านบาท แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 5-13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ากองทุนฯ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างดี จนทำให้มียอดจองซื้อเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้
นางจันทนา กาญจนาคม กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด เชื่อว่าปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่ทำให้นักลงทุนสนใจลงทุนมาจากความมั่นใจในทรัพย์สินที่กองทุนเข้าไปลงทุน ซึ่งประกอบด้วย โครงการ ในเครือเซนเตอร์พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ 3 โครงการ ได้แก่ ลงทุนในกรรมสิทธิ์ของ โครงการเซนเตอร์พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ เพชรบุรี และโครงการเซ็นเตอร์พอยต์ โฮเทล แอนด์เรซิเดนซ์ สุขุมวิท และลงทุนในสิทธิการเช่าอายุ 14 ปีของโครงการเซนเตอร์พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ หลังสวน ซึ่งทั้ง 3 โครงการนับเป็นโครงการที่มีศักยภาพในด้านการเติบโต โดยเฉพาะศักยภาพทางด้านทำเลซึ่งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับสถานที่ชอปปิ้งที่ได้รับความนิยม รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และยังเดินทางสะดวกเนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า ตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพักที่เป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งแบรนด์ “เซนเตอร์พอยต์” ยังได้รับการยอมรับและเชื่อถือในเรื่องของการบริหารจัดการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในระดับมาตรฐานสากล
“นอกจากนี้ โครงการทั้ง 3 แห่งยังมีจุดเด่นอยู่ที่รายได้จากการให้บริการในรูปแบบของเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และโรงแรม ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งให้กับโครงการ โดยในส่วนของบริการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์นั้นจะมีฐานลูกค้าระยะยาวที่ช่วยลดความผันผวนด้านรายได้ ในขณะเดียวกัน การรับลูกค้าระยะสั้นในรูปแบบโรงแรม ทำให้สามารถคิดค่าเช่าพักได้ในอัตราที่สูงกว่า และสามารถจับกลุ่มลูกค้าได้ทั้งชาวต่างชาติที่เข้าพักอาศัยในประเทศไทย และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย นอกจากนี้ โครงการทั้งสามแห่งยังดำเนินการมามากกว่า 15 ปี มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา โดยอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในช่วง 7 ปีระหว่างปี 2546-2552 อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง” นางจันทนากล่าว
ในส่วนของผลตอบแทนจากการลงทุนนั้น ทางบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด มหาชน (QH) ในฐานะผู้สนับสนุนจะรับประกันรายได้ค่าเช่าขั้นต่ำตลอด 3 ปีแรกหลังจากที่กองทุนลงทุนในทรัพย์สิน โดยการรับประกันรายได้ขั้นต่ำในช่วง 6 เดือนของปี 2555 จะอยู่ที่ 143.90 ล้านบาท ปี 2556 จะอยู่ที่ 266.10 ล้านบาท ปี 2557 อยู่ที่ 278.30 ล้านบาท และช่วง 6 เดือนของปี 2558 อยู่ที่ 146.70 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลที่น่าพอใจและแน่นอน
นายโสภณ อัศวานุชิต ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สายวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม กล่าวว่า หลังจากนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ควอลิตี้ เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปได้ลงทุนในวงกว้างขึ้น ซึ่งเชื่อว่ากองทุนดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน
