xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันดิบที่สำคัญในตลาดโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รู้จัก Oil Futures ตอน 2
โดยดร.กิตติพันธ์ คงสวัสดิ์เกียรติ

น้ำมันดิบจะมีชื่อเรียกตามแหล่งผลิต ซึ่งจะช่วยให้เราทราบถึงที่มาและคุณภาพของน้ำมันดิบ ที่จะนำมาทำการซื้อขายกันในทั้งตลาดปกติ และตลาดล่วงหน้า โดยแหล่งน้ำมันดิบที่สำคัญในโลกนั้นมีอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ น้ำมันดิบดูไบ (Dubai) น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) และน้ำมันดิบดับบลิวทีไอ (WTI) โดยน้ำมันดิบเหล่านี้มีแหล่งผลิตและคุณภาพที่แตกต่างกันไปดังนี้

1.น้ำมันดิบดูไบ (Dubai Crude) เป็นน้ำมันดิบจากแหล่งน้ำมันใต้ทะเลทรายในเอเชียตะวันออกกลาง น้ำมันดิบที่ได้จากบริเวณนี้จะมีลักษณะที่เรียกว่าหนักและเปรี้ยว หรือที่เรียกกันว่า Heavy Sour Crude โดยน้ำมันดิบดูไบจะมีค่าความหนาแน่นจำเพาะ (API Gravity) ประมาณ 31 ดีกรี และมีปริมาณซัลเฟอร์ประมาณ 2%

2.น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent Crude) มีแหล่งผลิตอยู่ในทะเลเหนือ (North Sea) หรือทะเลที่อยู่ระหว่างเกาะอังกฤษและคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย น้ำมันดิบเบรนท์ ถือว่าเป็นน้ำมันเบาและหวาน (Light Sweet Crude) เนื่องจากมีค่า API อยู่ที่ประมาณ 39 ดีกรี และมีปริมาณซัลเฟอร์อยู่ที่ประมาณ 0.4%

3.น้ำมันดิบดับบลิวทีไอ (WTI Crude) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ West Texas Intermediate เป็นน้ำมันดิบอ้างอิงที่สำคัญในทวีปอเมริกา น้ำมันดิบ WTI เป็นน้ำมันประเภทเบาและหวาน (Light Sweet Crude) โดยมีค่า API อยู่ที่ประมาณ 37 - 42 ดีกรี และมีปริมาณซัลเฟอร์อยู่ที่ประมาณ 0.24%

ราคาของน้ำมันดิบทั้งสามประเภทนี้ มีอิทธิพลต่อการซื้อขายน้ำมันดิบทั่วโลก เนื่องจากในการซื้อและขายน้ำมันดิบประเภทอื่นๆ ก็จะใช้การเปรียบเทียบความแตกต่างของคุณภาพน้ำมันดิบนั้นๆ กับน้ำมันดิบที่ใช้อ้างอิงในภูมิภาค เช่น น้ำมันดิบโอมานในตะวันออกกลางก็จะอ้างอิงกับน้ำมันดิบดูไบ หรือน้ำมันดิบยูรอล(Urals Crude Oil) ในรัสเซียก็จะอ้างอิงกับน้ำมันดิบเบรนท์ เป็นต้น

น้ำมันดิบ แหล่งพลังงานของไทย - ราคาอิงกับตลาดโลก

ในช่วง ปี 2544 - 2553 ประเทศไทยนำเข้าน้ำมันดิบประมาณ 700,000 - 800,000 บาร์เรลต่อวัน หรือ 250 - 290 ล้านบาร์เรลในแต่ละปี โดยส่วนใหญ่จะน้าเข้ามาจากประเทศตะวันออกกลาง เพื่อนำมาผ่านระบวนการกลั่น เพื่อผลิตเป็นน้ำมันสำเร็จรูปประเภทต่างๆ เช่น น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเตา และ ก๊าซหุงต้ม (LPG) เนื่องจากน้ำมันดิบที่น้าเข้ามาจากประเทศในตะวันออกกลาง จะอ้างอิงราคาน้ำมันดิบดูไบ สำหรับคนไทยแล้ว ราคาน้ำมันดิบดูไบ จึงเป็นราคาตั้งต้นของน้ำมันส้าเร็จรูปและสินค้าปลายน้ำอื่นๆ ที่ผลิตจากปิโตรเคมี เช่น พลาสติก ที่มีการใช้งานอยู่ในชีวิตประจำวันด้วย หลังจากที่น้ำมันดิบถูกกลั่นเป็นเชื้อเพลิงแล้ว โรงกลั่นน้ำมันจะตั้งราคาเชื้อเพลิงเหล่านี้ โดยพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่ได้ทั้งหมด ประกอบกับ

ค่าการกลั่น และต้นทุนราคาน้ำมันดิบ โดยราคาขายสุดท้ายจะเป็นราคาที่เทียบเคียงได้จากการน้าเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันอ้างอิงราคาจากตลาดสิงคโปร์ (Singapore Spot Market Price) บวกด้วยค่าใช้จ่ายในการขนส่งมายังประเทศไทย โดยอาจมีส่วนปรับเพิ่มลดตามความแตกต่างด้านคุณสมบัติของน้ำมัน ดังนั้น ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง จึงเป็นทั้งต้นทุนโดยตรงที่คนไทยต้องจ่ายซื้อน้ำมัน และเป็นต้นทุนแฝงอยู่ในราคาสินค้าและบริการ โดยต้นทุนนี้จะผันแปรไปตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก

ที่มา เอกสารของตลาดอนุพันธ์ www.tfex.co.th

รู้จัก Oil Futures ตอน 1

http://manager.co.th/MutualFund/ViewNews.aspx?NewsID=9550000077284
กำลังโหลดความคิดเห็น