ASTVผู้จัดการรายวัน - ออนิกซ์ กรุ๊ป เจ้าของแบรนด์โรงแรมอมารีชี้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยน เลือกใช้บริการในองค์กรที่มีระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ลดความคิดเลือกแบรนด์ลอยัลตี ประกาศเดินหน้าสร้างโครงการ CSR ต่อเนื่อง หวังเป็นเครื่องมือทางการแข่งขัน เหตุมาเลเซีย-สิงคโปร์พัฒนาด้าน CSR ไปไกลแล้ว
น.ส.ลิสา ทอมมัส ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เปิดเผยว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเริ่มหันมาให้ความสนใจ และให้ความสำคัญต่อ โรงแรมที่มีระบบการบริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการใส่ใจชุมชนกันมากกว่าการมองเรื่องแบรนด์ลอยัลตี เพราะการที่โรงแรมมีกิจกรรมเพื่อชุมชน และมีแนวทางที่ชัดเจนด้านการรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะจะสร้างความประทับใจด้านอารมณ์ให้แขกที่เข้าพักได้รู้สึกดี โดยเฉพาะตลาดที่มีความตื่นตัวเลือกใช้บริการตามแนวคิดนี้ คือตลาดสแกนดิเนเวีย และยุโรป ขณะที่ตลาดเอเชียก็เริ่มมีแนวโน้มด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น
แนวทางของออนิกซ์กรุ๊ปในด้าน CSR ต้องสร้างความเข้าใจที่ตรงกันกับนักลงทุนที่เป็นเจ้าของพร็อพเพอร์ตี้ และพนักงานในโรงแรม เพราะออนิกซ์เป็นทั้งเจ้าของกิจการและรับบริหาร โดยเฉลี่ยจะต้องใช้งบเพื่อทำโครงการ CSR เฉลี่ยที่ 0.01% ของรายได้ แต่ผลที่ได้รับในทางตรงจะช่วยสร้างภาพลักษณ์องค์กร เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ส่วนผลทางอ้อม คือ ช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ อย่างการเปลี่ยนน้ำจากขวดพลาสติกเป็นขวดแก้ว จะลดต้นทุนได้ถึง 50% การรีไซเคิลขยะจะลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดเก็บขยะ วิธีประหยัดน้ำและไฟ ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น
“ในอาเซียนมีเพียงมาเลเซีย และสิงคโปร์ที่ตื่นตัวจัดทำโครงการด้านสิ่งแวดล้อม และ กิจกรรม CSR ขณะที่ไทยมีเพียงผู้ประกอบการบางรายที่เริ่มทำ ส่วนโรงแรมเชนต่างประเทศในไทยเริ่มทำโครงการประเภทนี้จนเห็นเป็นรูปธรรมแล้วเพราะเป็นพื้นฐานมาจากประเทศแม่ในยุโรป ดังนั้น หากยังไม่กระตืนรือร้นที่จะเริ่มทำตอนนี้ก็เท่ากับเราถอยหลังเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่วนออนิกซ์จัดทำโครงการด้าน CSR เป็นปีที่ 3 แล้ว”
ดังนั้น จึงทำวิจัยสร้างแบรนด์โฟกัสในโรงแรมทั้งหมดของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ซึ่ง 5 แบรนด์ ได้แก่ อมารี ชามา โอโซ ซัฟฟรอน และโอเรียนเต็ล เรสซิเดสซ์ แต่ละแบรนด์จะสร้างเป็นโครงการที่เหมาะสม เช่น แบรนด์อมารีจะจัดเป็นโครงการด้านการศึกษา ภายใต้ชื่อ โครงการเหรียญบาทเพื่อชีวิต มอบทุนการศึกษาให้เด็กยากจนและด้อยโอกาส
ขณะที่แบรนด์ชามาจะเน้นโครงการเพื่อลดความยากจนของชุมชน จัดเป็นโครงการตลาดนัดสินค้าเกษตรอินทรีย์ ส่วนแบรนด์โอโซ ซึ่งมีคาแรกเตอร์ของความทันสมัย ใช้เทคโนโลยีเยอะจึงมีส่วนที่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ก็จะดีไซน์โครงการให้มีเรื่องของการลดใช้ทรัพยากร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ขณะที่ภาพรวมของโรงแรมในเครือออนิกซ์ทั้งหมดยังเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติตามแต่สมัครใจ ได้แก่ ทางเลือกที่จะไม่เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าเช็ดตัวทุกวัน หรือการลดใช้ขวดน้ำพลาสติกเปลี่ยนเป็นใช้น้ำที่เป็นขวดแก้ว หรือการแยกขยะรีไซเคิล
น.ส.ลิสา ทอมมัส ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เปิดเผยว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเริ่มหันมาให้ความสนใจ และให้ความสำคัญต่อ โรงแรมที่มีระบบการบริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการใส่ใจชุมชนกันมากกว่าการมองเรื่องแบรนด์ลอยัลตี เพราะการที่โรงแรมมีกิจกรรมเพื่อชุมชน และมีแนวทางที่ชัดเจนด้านการรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะจะสร้างความประทับใจด้านอารมณ์ให้แขกที่เข้าพักได้รู้สึกดี โดยเฉพาะตลาดที่มีความตื่นตัวเลือกใช้บริการตามแนวคิดนี้ คือตลาดสแกนดิเนเวีย และยุโรป ขณะที่ตลาดเอเชียก็เริ่มมีแนวโน้มด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น
แนวทางของออนิกซ์กรุ๊ปในด้าน CSR ต้องสร้างความเข้าใจที่ตรงกันกับนักลงทุนที่เป็นเจ้าของพร็อพเพอร์ตี้ และพนักงานในโรงแรม เพราะออนิกซ์เป็นทั้งเจ้าของกิจการและรับบริหาร โดยเฉลี่ยจะต้องใช้งบเพื่อทำโครงการ CSR เฉลี่ยที่ 0.01% ของรายได้ แต่ผลที่ได้รับในทางตรงจะช่วยสร้างภาพลักษณ์องค์กร เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ส่วนผลทางอ้อม คือ ช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ อย่างการเปลี่ยนน้ำจากขวดพลาสติกเป็นขวดแก้ว จะลดต้นทุนได้ถึง 50% การรีไซเคิลขยะจะลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดเก็บขยะ วิธีประหยัดน้ำและไฟ ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น
“ในอาเซียนมีเพียงมาเลเซีย และสิงคโปร์ที่ตื่นตัวจัดทำโครงการด้านสิ่งแวดล้อม และ กิจกรรม CSR ขณะที่ไทยมีเพียงผู้ประกอบการบางรายที่เริ่มทำ ส่วนโรงแรมเชนต่างประเทศในไทยเริ่มทำโครงการประเภทนี้จนเห็นเป็นรูปธรรมแล้วเพราะเป็นพื้นฐานมาจากประเทศแม่ในยุโรป ดังนั้น หากยังไม่กระตืนรือร้นที่จะเริ่มทำตอนนี้ก็เท่ากับเราถอยหลังเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่วนออนิกซ์จัดทำโครงการด้าน CSR เป็นปีที่ 3 แล้ว”
ดังนั้น จึงทำวิจัยสร้างแบรนด์โฟกัสในโรงแรมทั้งหมดของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ซึ่ง 5 แบรนด์ ได้แก่ อมารี ชามา โอโซ ซัฟฟรอน และโอเรียนเต็ล เรสซิเดสซ์ แต่ละแบรนด์จะสร้างเป็นโครงการที่เหมาะสม เช่น แบรนด์อมารีจะจัดเป็นโครงการด้านการศึกษา ภายใต้ชื่อ โครงการเหรียญบาทเพื่อชีวิต มอบทุนการศึกษาให้เด็กยากจนและด้อยโอกาส
ขณะที่แบรนด์ชามาจะเน้นโครงการเพื่อลดความยากจนของชุมชน จัดเป็นโครงการตลาดนัดสินค้าเกษตรอินทรีย์ ส่วนแบรนด์โอโซ ซึ่งมีคาแรกเตอร์ของความทันสมัย ใช้เทคโนโลยีเยอะจึงมีส่วนที่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ก็จะดีไซน์โครงการให้มีเรื่องของการลดใช้ทรัพยากร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ขณะที่ภาพรวมของโรงแรมในเครือออนิกซ์ทั้งหมดยังเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติตามแต่สมัครใจ ได้แก่ ทางเลือกที่จะไม่เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าเช็ดตัวทุกวัน หรือการลดใช้ขวดน้ำพลาสติกเปลี่ยนเป็นใช้น้ำที่เป็นขวดแก้ว หรือการแยกขยะรีไซเคิล
