ตร.เมืองนนท์ตามรวบเดนคุก ขี่ จยย.ตระเวนตามประกบเหยื่อสาวจี้ชิงทรัพย์ กระเป๋า-สร้อยคอทองคำ หากเหยื่อขัดขืนก็จะใช้มีดทำร้าย ตร.ไล่แกะรอยจากกล้องวงจรปิดจนรู้ตัวและนำภาพผู้ต้องหาไปให้เหยื่อชี้ตัวยืนยัน ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมถึงคอนโดฯ ที่พัก ตรวจค้นพบของกลางที่ชิงทรัพย์มากกว่า 100 รายการ สารภาพเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่มีงานทำ ทรัพย์สินที่ได้เอาไปขายซื้อยาไอซ์เสพ
วันนี้ (21 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ นายอดุลย์เดช วัชรสินธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.นพรัตน์ รินทพล รอง ผบก. พ.ต.อ.ชาญศิริ สุขรวย ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท.ธรรศกร ก้อนทอง สว.สส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายสุชาติ หรือโจ๊ก แย้มรุ่ง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.9 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะ พร้อมของกลางกว่า 100 รายการ เช่น กระเป๋าสะพายสตรี กระเป๋าสตางค์ ตั๋วจำนำทอง บัตรประจำตัวผู้เสียหาย บัตรเอทีเอ็ม และจักรยานยนต์ที่ลักทรัพย์มาก่อเหตุจำนวน 5 คัน โดยมีผู้เสียหายกว่า 10 หลายมารอชี้ตัว
พล.ต.ต.ธนายุตม์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาวจำนวนหลายรายว่าได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นขับขี่จักรยานยนต์ออกตระเวนจี้ชิงทรัพย์ โดยจะใช้วิธีขับรถเข้าประกบก่อนจะกระชากกระเป๋า หรือสร้อยคอทองคำ หากผู้เสียหายขัดขืนต่อสู้คนร้ายก็จะใช้มีดปลายแหลมที่เตรียมมาทำร้ายร่างกายก่อนหลบหนีไป จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทำการติดตามหาเบาะแสจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ จนได้รูปพรรณคนร้ายรายนี้ว่าเป็นนายสุชาติ หรือโจ๊ก จึงนำรูปไปให้ผู้เสียหายดู ซึ่งผู้เสียหายทุกหลายยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ
จากนั้นได้ขออนุมัติหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรีเข้าทำการจับกุมตัวนายสุชาติ ที่ห้องเลขที่ 27/75 ชั้น 3 ของอาคารเพิ่มสินคอนโด ซ.วัดตำหนักใต้ ม.4 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี จากการตรวจค้นภายในห้องพบของกลางที่คนร้ายจี้ชิงทรัพย์มากว่า 100 รายการซุกซ่อนอยู่ภายในห้อง จึงควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองนนทบุรี
สอบสวนนายสุชาติ หรือโจ๊ก ให้การรับสารภาพว่า เคยต้องโทษข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี และเพิ่งพ้นโทษมาเดือนตุลาคม ปี 2554 หลังพ้นโทษออกมาไม่มีงานทำจึงได้ออกตระเวนก่อเหตุลักจักรยานยนต์ส่งขายให้กับนายบัง ผู้ต้องหาในคดีปล้นทรัพย์จักรยานยนต์ก่อนชำแหละชิ้นส่วนส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรีจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากนายบังถูกจับจึงหันมาตระเวนชิงทรัพย์ผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงแทน โดยจะเลือกลงมือกับผู้เสียหายที่เดินเข้าออกในซอยเปลี่ยว หรือวางกระเป๋าไว้ที่ตะกร้าหน้ารถ หากผู้เสียหายรายใดขัดขืนก็จะใช้มีดที่เตรียมมาทำร้ายร่างกายก่อนหลบหนีไป โดยจะนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อยาไอซ์เสพ
ด้าน น.ส.พรวิภา ชาญแสง อายุ 18 ปี นักศึกษาผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ พร้อมเล่าว่าในวันเกิดเหตุตนเองกับแม่กำลังเดินออกมาเพื่อขึ้นรถเมล์ที่หน้าปากซอยไปเรียนในตอนเช้า สังเกตเห็นคนร้ายขับขี่จักรยานยนต์สวนมาก่อนจะขับวนมาจอดประกบข้างและพยายามดึงกระเป๋าสะพายของแม่ซึ่งมีเงินสดอยู่ในกระเป๋า 8 พันบาทที่แม่เตรียมนำไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ด้วยความตกใจจึงใช้ร่มที่ถือมาตีใส่คนร้ายไปหลายครั้ง ก่อนที่คนร้ายจะชักมีดที่เตรียมมาพยายามจะแทงแม่ ตนจึงร้องตะโกนว่าอยากได้อะไรก็เอาไปพร้อมทั้งโยนกระเป๋าสะพายของตนและแม่ให้คนร้ายไป
พล.ต.ต.ธนายุตม์กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นคนร้ายหลายสำคัญที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรีต้องการตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนร้ายได้ลงมือก่อเหตุในพื้นที่มาแล้วไม่ต่ำกว่า 45 ครั้ง แต่ละครั้งคนร้ายก็จะใช้จักรยานยนต์ที่ลักทรัพย์มาออกตระเวนก่อเหตุได้สักพักหนึ่งก็จะลักรถคันใหม่มาสับเปลี่ยนหมุนเวียนออกตระเวนชิงทรัพย์เหยื่อเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนรถคันเก่าก็จะนำไปขายต่อให้ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้ว หากมีผู้เสียหายรายใดที่เคยถูกคนร้ายก่อเหตุสามารถเดินทางมาชี้ตัวได้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี
วันเดียวกัน พ.ต.ท.วัชรชัชญ์ นิธิวรรัชญ์ สวป.สภ.เมืองนนทบุรีนำกำลังตั้งด่านตรวจหาสิ่งผิดกฎหมายอยู่นั้นได้มีนายพจน์นันท์ จ้างประเสริฐ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.5 ต.บางรักใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ขับขี่จักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเข้าด่านตรวจมาจึงขออนุญาตตรวจค้น จากการตรวจค้นใต้เบาะจักรยานยนต์พบยาบ้าจำนวน 1,933 เม็ด ยาไอซ์ 8 กรัม จึงควบคุมตัวพร้อมแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
