บลจ.ยูโอบีชี้หุ้นไทยยังน่าลงทุนราคาไม่แพง บริษัทจดทะเบียนยังเติบโต แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาเรื่องกรีซ แนะลงทุน “ยูโอบี สมาร์ท ดิวิเดนด์-โฟกัส อิควิตี้ ฟันด์ (UOBSDF)” ลงทุนหุ้นปันผลรับผลตอบแทนดี
นายกรวุฒิ ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยขณะนี้ถือว่าไม่แพง ปัจจุบัน P/E ไม่สูงมาก ขณะเดียวกันบริษัทจดทะเบียนในปีนี้คาดว่ามีการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 20 ซึ่งสูงมาก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการภายในประเทศและนโยบายกระตุ้นจากรัฐบาล ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความน่าสนใจ นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเริ่มเข้าลงทุน แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศในเรื่องความกังวลในปัญหาหนี้ของกรีซ การเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ลดลง เศรษฐกิจโลกที่มีการเติบโตต่ำกว่าที่คาด โดยคาดว่าตลาดหุ้นไทยอาจจะปรับตัวมาถึงแนวรับที่ระดับ 1,100 จุด และคาดว่าจะขึ้นไปได้ถึง 1,300 จุด หากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจปกติ
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 2 จากการเติบโตของผลประกอบการที่โดดเด่น โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตของผลกำไรบริษัทจดทะเบียนเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงเกือบ 20% ของปี 2555 ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการลดภาษีและผลกระทบจากน้ำท่วม นอกจากนี้ ความมีเสถียรภาพทางการเมืองยังส่งผลให้เกิดนโยบายการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนต่างๆ เหล่านี้ ทำให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศมีความมั่นใจและเริ่มกลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องพิจารณาและติดตามปัจจัยเสี่ยงที่เป็นผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นความกังวลวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป ความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองของกรีซ รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อในประเทศที่มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ความกังวลดังกล่าวยังไม่ส่อเค้าความรุนแรงมากนัก และดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงเดือนที่ผ่านมาได้ปรับตัวลดลงหลังจากที่ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยที่มูลค่าหุ้นยังอยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม จึงเป็นโอกาสที่น่าเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนในระยะยาวผ่านตลาดหุ้นไทย บลจ.ยูโอบี (ไทย) นำเสนอ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท ดิวิเดนด์-โฟกัส อิควิตี้ ฟันด์ (UOBSDF) เน้นลงทุนในหุ้นปันผลที่มีคุณภาพ ด้วยแนวทางการลงทุนแบบ Value style โดยเน้นจะคัดสรรหุ้นปันผลที่มีศักยภาพสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าตลาด มีแนวโน้มผลกำไรที่มีเสถียรภาพ มีสถิติการจัดการที่สม่ำเสมอและรอบคอบ และราคาในระยะยาวที่ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐาน จากแนวทางการคัดเลือกหุ้นดังกล่าว ได้สะท้อนให้เห็นในผลการดำเนินงานกองทุนย้อนหลัง โดยล่าสุด ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 55 อัตราผลตอบแทนกองทุนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งต้นปีอยู่ที่ 19.22% ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน SET High Dividend 30 Index อยู่ที่ 4.33%
“ถึงแม้ในขณะนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ จะปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และปัญหาหนี้ในยุโรป ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยภายนอก แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยพื้นฐานภายในประเทศนั้นยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นการลงทุนในหุ้นปันผลผ่านกองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท ดิวิเดนด์-โฟกัส อิควิตี้ ฟันด์ (UOBSDF) เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนให้กับพอร์ตการลงทุนของท่านได้” นายกรวุฒิกล่าว