โดยธณาพล อิทธินิธิภัค
ผู้จัดการงานจัดหาผลิตภัณฑ์พิเศษ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเกิดไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกขึ้นมากมายอย่างต่อเนื่อง ไล่มาตั้งแต่วิกฤตดอทคอมในปี 2544-2545 สงครามในประเทศอิรัก (2547) วิกฤตหนี้สินด้อยคุณภาพหรือ Subprime ในสหรัฐฯ (2551) ปัญหาความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลาง (2554) และต่อเนื่องมาจนถึงปัญหาหนี้สินในยุโรปที่กำลังกดดันเศรษฐกิจโลกอยู่ในปัจจุบัน ผลจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้ทองคำซึ่งจัดว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ( Save Haven) ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาทองคำแท่งในตลาดโลกให้ผลตอบแทนเฉลี่ยถึง 18.61%* ต่อปี
ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกให้ผลตอบแทนเพียง 3.29% * ต่อปีเท่านั้น จึงทำให้เกิดกระแสการลงทุนในทองคำมากขึ้น และเกิดช่องทางในการลงทุนในทองคำนอกเหนือจากการลงทุนในทองคำแท่งเพิ่มขึ้นมากมาย เช่น กองทุนทองคำ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ (Gold Futures) เป็นต้น และหนึ่งในช่องทางการลงทุนล่าสุดที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในทองคำก็คือการลงทุนใน กองทุนอีทีเอฟทองคำ
จุดเด่นของกองทุนประเภทอีทีเอฟทองคำที่แตกต่างจากกองทุนรวมทองคำทั่วไปก็คือ การที่นักลงทุนสามารถรู้ราคาแบบ Real Time และสามารถซื้อขายได้ตลอดทั้งวัน ทำให้สามารถทำกำไรระหว่างวันได้เช่นเดียวกันกับหุ้น โดยจะมีราคาอ้างอิงจากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิโดยประมาณ (iNAV) ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงทุกๆ 15 - 30 วินาที เพื่อให้นักลงทุนใช้เป็นข้อมูลในการส่งคำสั่งซื้อ หรือคำสั่งขาย โดย iNAV จะคำนวณจากราคาทองคำที่อ้างอิง เช่น กองทุนเปิดเค โกล์ด อีทีเอฟ หรือ KG965 ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งลงทุนในทองคำแท่งความบริสุทธิ์ 96.5% ก็จะมีการนำราคาทองคำโลกความบริสุทธิ์ 99.5% ซึ่งมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา มาคำนวณ และปรับน้ำหนักความบริสุทธิ์ให้เป็นไปตามมาตรฐานทองคำแท่งในประเทศไทยที่ 96.5% จากนั้น จึงปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้นๆ และประกาศทุกๆ 30 วินาที หรือประมาณ 600 ครั้งต่อวัน ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาทองคำแท่งที่มีการประกาศจากสมาคมค้าทองคำแล้ว จะมีการประกาศเปลี่ยนแปลงถี่หรือบ่อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับสมาคมค้าทองคำ ทำให้นักลงทุนสามารถจับจังหวะการลงทุนในระหว่างวันตามราคาทองคำโลกที่เปลี่ยนแปลงไปผ่านกองทุนอีทีเอฟทองคำได้ ในขณะที่การลงทุนผ่านกองทุนรวมทองคำทั่วไปนักลงทุนจะต้องรอจนถึงวันทำการถัดมาจึงจะทราบราคาซื้อขาย (NAV) จึงไม่สามารถทำกำไรในระหว่างวัน
ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้ลงทุนควรจะต้องทราบคือ ราคาที่ผู้ลงทุนเสนอซื้อ หรือขาย ควรจะเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับ iNAV ให้มากที่สุด เนื่องจากจะเป็นราคาที่สะท้อนค่าของมูลค่าหน่วยลงทุนในขณะนั้นๆมากที่สุด ซึ่งจุดเด่นของกองทุนอีทีเอฟทองคำคือจะมีผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) เป็นผู้ทำหน้าที่เสริมสภาพคล่องในการซื้อขาย เพื่อให้ราคาซื้อขายในตลาด ใกล้เคียงกับ iNAV โดยในส่วนของกองทุน KG965 ได้รับความร่วมมือกับผู้ค้าทองคำรายใหญ่ของประเทศ 3 ราย คือ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ จำกัด (ในเครือห้างทองแม่ทองสุก) บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ในเครือห้างทองฮั่วเซ่งเฮง) และบริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ จำกัด (ในปี 2548 บริษัท ออสสิริส จำกัด เป็นผู้จำหน่ายทองคำแท่งเพื่อการลงทุน และเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนทองคำแท่งแห่งแรกในประเทศไทย) เป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่องของกองทุน เพื่อให้มั่นใจว่าราคาซื้อขายจะใกล้เคียงกับ iNAV มากที่สุด
นอกจากนี้ ประโยชน์อีกข้อของอีทีเอฟทองคำยังมาจากความคล่องตัวในการชำระเงิน เนื่องจากเป็นการลงทุนที่เหมือนหุ้น ทำให้นักลงทุนสามารถชำระเงินได้ภายใน 3 วันทำการ (T+3) ซึ่งต่างจากการลงทุนในกองทุนเปิดทองคำที่ต้องชำระเงินในวันที่ส่งคำสั่งซื้อขาย (T+0) และยังใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับการที่นักลงทุนต้องไปซื้อทองคำแท่งด้วยตนเองที่ร้านทอง
เนื่องจากเมื่อเทียบกับการลงทุนในทองคำแท่งซึ่งมีขนาดเล็กสุดที่น้ำหนัก 5 บาท ก็จะต้องใช้เงินลงทุนขั้นต่ำกว่า 100,000 บาทขึ้นไป ในขณะที่กองทุนอีทีเอฟทองคำ เช่น KG965 สามารถลงทุนได้ขั้นต่ำที่ 100 หุ้น หรือใช้เงินลงทุนเพียงแค่ 2,000 กว่าบาทเท่านั้น จึงสามารถทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น หรือทยอยซื้อถัวเฉลี่ยต้นทุนเมื่อราคาทองคำปรับตัวลดลง
โดยใช้เงินลงทุนทีละไม่มากได้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่สูง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหนี้ยุโรปที่เริ่มจะลุกลามไปยังสเปน หรือการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งมีทิศทางการฟื้นตัวดีขึ้น แต่ยังค่อนข้างเปราะบางและอาจจะทำให้ทางการสหรัฐฯต้องมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม (QE3) ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลง และจะส่งผลดีต่อราคาทองคำในระยะยาว จึงทำให้ทองคำยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ ทั้งเพื่อผลตอบแทนในระยะยาว หรือเพื่อกระจายความเสี่ยงต่อพอร์ทโฟลิโอการลงทุน
นอกจากนี้ ราคาทองคำในปัจจุบันที่ค่อนข้างจะผันผวนมากในระหว่างวัน การลงทุนในกองทุนอีทีเอฟทองคำซึ่งทำให้สามารถจับจังหวะการลงทุนในทองคำได้ตลอดทั้งวันจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนที่มีความชำนาญ หรือจับจังหวะการลงทุนได้ มีโอกาสทำกำไรในช่วงที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นในระหว่างวันได้ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการทยอยเก็บ หรือสะสมทองคำในระยะยาว โดยไม่มีเวลาจับจังหวะการลงทุนในระหว่างวันด้วยตัวเอง การลงทุนในกองทุนรวมทองคำ ก็ยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่เหมาะสมอยู่